เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข การรวมตัวของครอบครัว และประเพณีอันงดงามของไทย แต่สำหรับวัยทองนั้น นอกจากการเตรียมรอลูกและหลานกลับมาชื่นใจที่บ้านกันอย่างพร้อมหน้าแล้ว การเตรียมพร้อมด้านสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากในช่วงวัยนี้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนและมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่างๆ มากขึ้น การมียาสามัญประจำบ้านติดตัวจึงเป็นการป้องกันและรักษาเบื้องต้นที่ช่วยให้วัยทองสามารถใช้ชีวิตในช่วงเทศกาลได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย
โดยในช่วงอายุ 45 – 60 ปี เป็นระยะที่ร่างกายเข้าสู่วัยทอง ผู้หญิงจะมีการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน ส่งผลให้เกิดอาการร้อนวูบวาบ 06:10/67 เหงื่อออกตอนกลางคืน นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย และมีความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ส่วนผู้ชายจะมีการลดลงของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย กล้ามเนื้อลดลง และอาจมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ ตลอดจนวัยทองเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังสูงขึ้น เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ข้อเสื่อม และโรคกระดูกพรุน ผู้ที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้จำเป็นต้องควบคุมอาการและรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงเทศกาล
การเตรียมยาสามัญประจำบ้านจึงไม่เพียงแต่เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากโรคประจำตัวของวัยทองในช่วงที่อาจเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ยากในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ผลกระทบของอากาศร้อนในช่วงสงกรานต์ต่อสุขภาพวัยทอง
เทศกาลสงกรานต์มักตรงกับช่วงที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนที่สุดของปี อุณหภูมิที่สูงเป็นพิเศษนี้ส่งผลกระทบต่อร่างกายของผู้ที่อยู่ในวัยทองมากกว่าคนทั่วไป เนื่องจาก…
- การควบคุมอุณหภูมิร่างกายเสื่อมถอย วัยทองมีการตอบสนองต่อความร้อนช้าลง เหงื่อออกน้อยลง ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่าวัยหนุ่มสาว
- การเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด วัยทองมีความยืดหยุ่นของหลอดเลือดลดลง ทำให้การปรับตัวต่อความร้อนแย่ลง
- อาการร้อนวูบวาบในผู้หญิงวัยทอง ความร้อนภายนอกอาจกระตุ้นให้เกิดอาการร้อนวูบวาบรุนแรงขึ้น
- การรับรู้ความกระหายน้ำลดลง วัยทองมักรู้สึกกระหายน้ำช้ากว่าปกติ ทำให้เสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ
ความเสี่ยงจากกิจกรรมสงกรานต์
กิจกรรมในช่วงสงกรานต์มีลักษณะเฉพาะที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของวัยทอง ได้แก่…
- การเล่นน้ำ การสัมผัสน้ำเป็นเวลานานอาจทำให้วัยทองเกิดปัญหาผิวหนัง โรคผิวหนังอักเสบ หรือการติดเชื้อได้ง่ายตามมา
- การเดินทาง เมื่อวัยทองต้องเดินทางไกลในช่วงเทศกาลอาจทำให้เกิดความเครียด เหนื่อยล้า และเสี่ยงต่อโรคเกี่ยวกับการเดินทาง เช่น ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
- ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน ในการทำบุญหรือร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม วัยทองอาจต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน ซึ่งส่งผลต่อข้อและกล้ามเนื้อที่มีความเสื่อมถอยแล้วในวัยทอง
- การเปลี่ยนแปลงตารางการรับประทานยา กิจกรรมที่เปลี่ยนไปอาจทำให้วัยทองลืมรับประทานยาตามเวลาปกติ ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว
ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในช่วงสงกรานต์สำหรับวัยทอง
- ภาวะเครียดจากความร้อน ตั้งแต่อาการอ่อนเพลียจากความร้อนไปจนถึงโรคลมแดด 01:03/68 ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์
- ภาวะขาดน้ำ อาการนี้สามารถพบได้บ่อยในผู้สูงวัยและวัยทอง โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน และอาจรุนแรงมากขึ้น หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- การบาดเจ็บจากการลื่นล้ม พื้นเปียกจากการเล่นน้ำ ทำให้วัยทองเสี่ยงต่อการลื่นล้ม ซึ่งในวัยทองอาจมีผลกระทบรุนแรงเนื่องจากกระดูกที่เปราะบางขึ้น
- การติดเชื้อทางเดินหายใจ การี่วัยทองอยู่ในที่แออัดและการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลัน และอากาศที่แห้งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจ
- อาการระคายเคืองตาและผิวหนัง จากแสงแดด ฝุ่น และสารระคายเคืองต่างๆ ในสิ่งแวดล้อม
- ปัญหาระบบทางเดินอาหาร จากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรับประทานอาหารของวัยทอง การรับประทานอาหารนอกบ้าน หรืออาหารที่ไม่สะอาดอาจนำมาสู่ปัญหาระบบทางเดินอาหารได้ เช่น อาหารเป็นพิษ
ดังนั้น การเตรียมยาสามัญประจำบ้านที่เหมาะสม จะช่วยให้วัยทองสามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ทันท่วงที และป้องกันไม่ให้อาการลุกลามจนเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงในช่วงเทศกาลที่บริการทางการแพทย์อาจเข้าถึงได้ยากกว่าปกติ
รายการยาสามัญประจำบ้านที่จำเป็นสำหรับวัยทอง
ยาลดไข้ บรรเทาปวด
ยาลดไข้และบรรเทาปวดเป็นยาสามัญประจำบ้านพื้นฐานที่สำคัญมาในทุกครัวเรือน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่วัยทองมีความเสี่ยงต่อการเกิดไข้จากการเปลี่ยนแปลงของอากาศหรืออาการปวดเมื่อยจากกิจกรรมต่างๆ ยาที่แนะนำให้มีติดบ้านได้แก่
- พาราเซตามอล ยาสามัญประจำบ้านที่ช่วยลดไข้ บรรเทาปวดที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับวัยทอง สามารถใช้ได้ทั้งในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคไต โดยทั่วไปรับประทานครั้งละ 500 – 1,000 มิลลิกรัม ทุก 4 – 6 ชั่วโมง ไม่ควรเกิน 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน
- ยากลุ่ม NSAIDs ได้แก่ ไอบูโพรเฟน นาพรอกเซน หรือแอสไพริน ใช้บรรเทาอาการปวดและอักเสบได้ดี แต่มีข้อควรระวัง คือ ไม่เหมาะกับวัยทองหรือที่มีโรคกระเพาะ โรคไต หรือแพ้ยาในกลุ่มนี้ และควรรับประทานหลังอาหารทันที ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานหากไม่ได้ปรึกษาแพทย์
การเลือกระหว่างพาราเซตามอลและยากลุ่ม NSAIDs
- พาราเซตามอล เหมาะสำหรับอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลางและลดไข้ ปลอดภัยสำหรับวัยทองหรือผู้มีโรคประจำตัวส่วนใหญ่
- NSAIDs เหมาะกับอาการปวดที่มีการอักเสบร่วมด้วย เช่น ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ แต่มีข้อจำกัดในผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท
ข้อควรระวังพิเศษสำหรับวัยทอง
- วัยทองหรือผู้ที่มีโรคตับ ควรระมัดระวังการใช้พาราเซตามอล และไม่ควรใช้เกินขนาดที่แนะนำ
- วัยทองหรือผู้ที่มีโรคไต ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่ม NSAIDs เป็นประจำ
- ผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดควรระมัดระวังการใช้ยาแอสไพริน เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงต่อการเลือดออก
- วัยทองควรตรวจสอบปฏิกิริยาระหว่างยา หากกำลังรับประทานยาประจำอื่นๆ
ยาแก้แพ้ แก้คัน
ในช่วงสงกรานต์ที่วัยทองมีการเล่นน้ำและอยู่กลางแจ้ง และด้วยความที่ไม่ทราบว่าน้ำที่ต่างคนต่างสาดกันนั้นเป็นน้ำมาจากแหล่งใด ก็สามารถทำให้มีโอกาสแพ้มากขึ้น ยาแก้แพ้จึงเป็นหนึ่งในยาสามัญประจำบ้านที่สำคัญ หากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้
- ยาแก้แพ้กลุ่มที่ไม่ทำให้ง่วง (Non-sedating Antihistamines) เช่น Loratadine (คลาริทิน), Cetirizine (ซีทิริซีน), Fexofenadine (เฟกโซเฟนาดีน) เหมาะสำหรับวัยทองที่ต้องการใช้ในเวลากลางวัน เนื่องจากไม่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม โดยใช้บรรเทาอาการแพ้ต่างๆ เช่น จาม น้ำมูกไหล คัน ผื่นแพ้ ลมพิษ หรือจากน้ำช่วงสงกรานต์
- ยาแก้แพ้กลุ่มที่อาจทำให้ง่วง (Sedating Antihistamines) เช่น Chlorpheniramine (คลอร์เฟนิรามีน) หรือ Hydroxyzine (ไฮดรอกซีซีน) อีกหนึ่งกลุ่มยาสามัญประจำบ้านที่เหมาะสำหรับวัยทองที่ต้องการใช้ก่อนนอน หากมีอาการคันรบกวนต่อการนอนหลับ
- ยาทาแก้คัน แก้แพ้ผิวหนัง
- ครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของ Calamine ช่วยบรรเทาอาการคันและระคายเคืองผิวหนังจากการเล่นน้ำสงกรานต์ของวัยทองได้ เป็นยาสามัญประจำบ้านที่มีกันทุกบ้าน
- ครีมสเตียรอยด์ความเข้มข้นต่ำ เช่น Hydrocortisone 0.5 – 1% ใช้สำหรับผื่นแพ้สัมผัส ผื่นแพ้แดด หรือแมลงกัดต่อย
- ครีมหรือเจลที่มีส่วนผสมของ Aloe Vera ช่วยลดการอักเสบและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวที่ระคายเคืองหรือไหม้แดดในวัยทองได้ดี
ข้อควรระวังในการใช้ยาแก้แพ้สำหรับวัยทอง
- ยาแก้แพ้บางชนิด อาจทำให้วัยทองมีอาการความดันโลหิตสูงขึ้น ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง
- ยาแก้แพ้กลุ่มที่ทำให้ง่วง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มในวัยทองและผู้สูงอายุได้
- วัยทองควรระวังการใช้ยาแก้แพ้ร่วมกับยาที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง เช่น ยานอนหลับ ยาคลายกังวล
- ผู้ที่มีปัญหาต่อมลูกหมากโต ควรระมัดระวังการใช้ยาแก้แพ้บางชนิดที่อาจทำให้ปัสสาวะลำบากมากขึ้น
ยาแก้ท้องเสีย และยาระบาย
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีการรับประทานอาหารไม่เป็นช่วงเวลา บางท่านซื้อมาแล้ววางไว้ค่อยกิน หรือแกะแล้วแต่ไม่เก็บให้ดีต่อการรับประทานต่อ ปัญหาระบบทางเดินอาหาร และอาการอาหารเป็นพิษ 04:03/68จึงเป็นอีกสิ่งที่วัยทองพบได้บ่อย การเตรียมยาสามัญประจำบ้านเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารจึงมีความสำคัญไม่แพ้กับยาตัวอื่นๆ
- ยาแก้ท้องเสีย
- Loperamide (โลเพอราไมด์) ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้และทำให้อุจจาระแข็งขึ้น เหมาะสำหรับวัยทองที่มีอาการท้องเสียไม่รุนแรงที่ไม่มีไข้หรือมูกเลือดปน
- ผงน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) ช่วยทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไปจากการท้องเสียของวัยทองและป้องกันภาวะขาดน้ำ
- ยาลดกรดและยาป้องกันอาการจุกเสียด
- ยาลดกรด (Antacids) เช่น อลูมินัม ไฮดรอกไซด์, แมกนีเซียม ไฮดรอกไซด์ ช่วยบรรเทาอาการจุกเสียด แสบร้อนกลางอกของวัยทอง
- ยายับยั้งการหลั่งกรด H2 Blockers เช่น Ranitidine (รานิทิดีน), Famotidine (ฟาโมทิดีน) ช่วยลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
- ยาระบาย
- ยาระบายกลุ่มเพิ่มกาก เช่น Psyllium (ไซลเลียม) ปลอดภัยที่สุดสำหรับวัยทองเหมาะสำหรับการใช้ระยะยาว
- ยาระบายกลุ่มเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น Lactulose (แลคทูโลส) ช่วยดึงน้ำเข้าลำไส้ทำให้อุจจาระนุ่มขึ้น
- ยาระบายกลุ่มกระตุ้นลำไส้ เช่น Bisacodyl (ไบซาโคดิล) ควรใช้เป็นครั้งคราวเท่านั้น ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
ข้อควรระวังสำหรับวัยทอง
- วัยทองไม่ควรใช้ยาแก้ท้องเสียหากมีไข้สูง หรือมีมูกเลือดปนในอุจจาระ ควรพบแพทย์
- ผู้ที่มีโรคไตควรระมัดระวังการใช้ยาลดกรดบางชนิด โดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของแมกนีเซียม
- ไม่ควรใช้ยาระบายเป็นประจำ เพราะอาจทำให้ลำไส้ทำงานผิดปกติและพึ่งพายาระบาย
- ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูงควรเลือกยาลดกรดที่มีโซเดียมต่ำ
ยารักษาโรคผิวหนังเบื้องต้น
เพราะน้ำที่เล่นในช่วงกรานต์ไม่มีใครทราบว่าสะอาดหรือไม่ ดังนั้น ปัญหาผิวหนังของวัยทองที่พบได้บ่อยในช่วงสงกรานต์จึงมีตามมากขึ้น
- ยาทาแก้อาการระคายเคืองผิวหนัง
- ครีมหรือโลชั่น Calamine ยาสามัญประจำบ้านที่ช่วยบรรเทาอาการคัน และให้ความเย็นแก่วัยทองที่เกิดอาการคันตามผิวหนัง
- ครีมสเตียรอยด์ความเข้มข้นต่ำ เช่น Hydrocortisone 0.5 – 1% ใช้บรรเทาการอักเสบของผิวหนัง
- ยาทาฆ่าเชื้อ
- โพวิโดน – ไอโอดีน ใช้ทำความสะอาดบาดแผลและฆ่าเชื้อที่เกิดขึ้น
- ครีมหรือขี้ผึ้งที่มี Mupirocin วัยทองสามารถใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังได้
- ครีมกันแดด
- วัยทองควรเลือกที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 และป้องกันทั้ง UVA และ UVB โดยเลือกชนิดที่กันน้ำได้สำหรับการเล่นน้ำสงกรานต์ และควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงหรือหลังเล่นน้ำทุกครั้ง เพราะกันแดดคือตัวช่วยที่ดีให้ผิวสวยใสในวัยทอง 10: 03/68
- ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลังสัมผัสแดด
- เจล Aloe Vera ช่วยลดอาการอักเสบและให้ความเย็นแก่ผิวที่ไหม้แดด
- โลชั่นบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินอี ช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดด
ข้อควรระวังสำหรับวัยทอง
- ผิวของวัยทองจะมีความบางและไวต่อการระคายเคืองมากกว่าปกติ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว และทาอย่างไม่ขาด
- วัยทองไม่ควรใช้ครีมสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานานบนบริเวณใบหน้าหรือขาหนีบ
- ผู้ที่มีแผลเบาหวานควรระมัดระวังเป็นพิเศษในการดูแลบาดแผล และควรปรึกษาแพทย์แม้เป็นแผลเล็กน้อย
ยาสำหรับโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในวัยทอง
วัยทองหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวควรพกยาประจำตัวหรือยาสามัญประจำบ้านไปด้วยในปริมาณที่เพียงพอตลอดช่วงเทศกาล และมียาสำรองในกรณีฉุกเฉินเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
- ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง
- วัยทองต้องรับประทานต่อเนื่องแม้ในช่วงเทศกาล ไม่ควรหยุดยาเอง
- วัยทองควรพกยาประจำตัวในปริมาณมากกว่าที่ต้องใช้จริงอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- แนะนำเพิ่มเติมให้วัยทิงพิจารณาพกเครื่องวัดความดันโลหิตแบบพกพาไปด้วย
- ยารักษาโรคเบาหวาน
- ยาเม็ดลดระดับน้ำตาล เช่น Metformin (เมตฟอร์มิน) วัยทองต้องรับประทานต่อเนื่อง
- อินซูลิน วัยทองหรือผู้ที่ใช้อินซูลินควรเตรียมอุปกรณ์และยาให้พร้อม รวมถึงการเก็บรักษาที่เหมาะสม
- อุปกรณ์ตรวจน้ำตาล วัยทองควรพกเครื่องตรวจน้ำตาลและแถบตรวจ
- น้ำตาลกลูโคส หรือลูกอม สำหรับแก้ไขภาวะน้ำตาลต่ำ
- ยารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด:
- ยาละลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพรินขนาดต่ำ
- ยาลดไขมันในเลือด เช่น Statins (สแตติน)
- ยาขยายหลอดเลือดหัวใจ เช่น Isosorbide dinitrate (ไอโซซอร์ไบด์ ไดไนเตรต) หรือสเปรย์ Nitroglycerin สำหรับวัยทองหรือผู้ที่มีอาการเจ็บหน้าอก
- ยาบรรเทาอาการของโรคข้อ
- ยาบรรเทาปวดเฉพาะที่ เช่น ครีม หรือเจลที่มีส่วนผสมของ Diclofenac หรือ Piroxicam
- ยาเสริมสร้างข้อ เช่น Glucosamine, Chondroitin หากใช้อยู่เป็นประจำ
ข้อควรระวังสำหรับวัยทอง
- วัยทองควรพกบัตรประจำตัวผู้ป่วยหรือบัตรที่ระบุโรคประจำตัวและยาที่แพ้ติดตัวเสมอ
- วัยทองควรแจ้งคนใกล้ชิดเกี่ยวกับโรคประจำตัวและตำแหน่งที่เก็บยาฉุกเฉิน
- เก็บยาสามัญประจำบ้านไว้ในที่เหมาะสม ไม่ร้อนหรือชื้นเกินไป และพ้นจากแสงแดดโดยตรง
- ตรวจสอบวันหมดอายุของยาสามัญประจำบ้านก่อนนำไปด้วย
ยาและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น
นอกจากยาสามัญประจำบ้านแล้ว วัยทองก็ควรเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นไว้เผื่อด้วย ซึ่งหากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เจ้ายากล่องนี้จะช่วยให้เรารอดพ้นจากอันตรายเบื้องต้นได้อย่างแน่นอน
- อุปกรณ์ทำแผล
- พลาสเตอร์ปิดแผลหลายขนาด
- ผ้าก๊อซและสำลีปราศจากเชื้อ
- เทปกาวทางการแพทย์
- น้ำเกลือล้างแผล
- น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ 70% หรือ โพวิโดน – ไอโอดีน
- อุปกรณ์สำหรับการบาดเจ็บกล้ามเนื้อและข้อ
- ผ้ายืดพันแผล
- เจลประคบเย็นหรือร้อน (Cold pack / Hot pack)
- ครีมหรือสเปรย์บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ
- อุปกรณ์วัดสัญญาณชีพ
- เครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิตอล
- เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือด (สำหรับวัยทองผู้ที่ป่วยเบาหวาน)
- เทอร์โมมิเตอร์ดิจิตอล
- ยาเฉพาะที่ควรมีเพิ่มเติม:
- ยาหยอดตา น้ำตาเทียมสำหรับตาแห้ง และยาหยอดตาแก้อักเสบ
- ยาใช้ภายนอกสำหรับปากและเหงือก เช่น เจลบรรเทาอาการเจ็บในช่องปาก
- ยาดมหรือยาหม่อง ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียน หน้ามืด คัดจมูก สำหรับวัยทอง
- ยาป้องกันหรือแก้เมารถ สำหรับวัยทองที่มีอาการเมารถ เมาเรือ
ข้อควรระวังและคำแนะนำเพิ่มเติม
- วัยทองควรเก็บยาสามัญประจำบ้านและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลในกระเป๋าที่กันน้ำได้ เพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำในช่วงสงกรานต์
- แนะนำให้วัยทองควรจัดเรียงยาให้เป็นระเบียบและติดป้ายชื่อยาให้ชัดเจน เพื่อให้หยิบใช้ได้สะดวกในยามฉุกเฉิน
- วัยทองควรศึกษาวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่สำคัญ เช่น การปฐมพยาบาลผู้ที่เป็นลม หรือการจัดการกับบาดแผลเบื้องต้น
- วัยทองควรมีหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินติดตัว ทั้งเบอร์โรงพยาบาลใกล้บ้าน แพทย์ประจำตัว และบริการการแพทย์ฉุกเฉิน 1669
พาคุณผู้อ่านมาต่อและทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอีกหนึ่งชนิดสูตรของคุณหมอและเภสัชกรที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลกลุ่มวัยทองโดยเฉพาะ ที่สำคัญผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดนี้มีไว้เป็นยาสามัญประจำบ้านก็อุ่นใจแน่นอน เพราะนอกจากจะช่วยบรรเทาอาการที่อาจเกิดขึ้นในช่วงวัยทองไม่ว่าจะเป็น อาการร้อนวูบวาบ อาการเหงื่อออกง่าย อาการนอนไม่หลับ หรือจะเป็นอารมณืแปรปรวรก็ล้วนสามารถบรรเทาและทำให้ร่างกายมีอาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ได้กับ…
ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพวัยทองสูตรสำหรับคุณผู้หญิง ที่ได้รวบรวมสารสกัดจากธรรมชาติถึง 6 ชนิดที่มีคุณสมบัติเกื้อหนุนสุขภาพองค์รวมของผู้ที่อยู่ในวัยทองเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีอากาศร้อนและกิจกรรมทางกายมากขึ้น ร่างกายของวัยทองอาจต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
*ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
1. ผลกระทบจากอากาศร้อน
การควบคุมอุณหภูมิของร่างกายวัยทองจะมีความเสื่อมถอยลดลงตามลำดับ หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นลดลง และอาการร้อนวูบวาบที่อาจรุนแรงขึ้นในสภาพอากาศร้อนจัด
ด้วยสารสกัด ถั่วเหลืองจากประเทศสเปน ใน DNAe Flavoplus ที่มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย การรับประทานสารสกัดจากถั่วเหลืองอาจช่วยบรรเทาอาการวัยทองในผู้หญิง เช่น อาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน และความหงุดหงิด ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในช่วงสงกรานต์ที่มีอากาศร้อน
และสารสกัด ตังกุย สมุนไพรจีนที่มีการใช้มายาวนานเพื่อบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน บำรุงเลือด และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
2. ความเสี่ยงจากกิจกรรมสงกรานต์
การเล่นน้ำ การเดินทาง และการยืนหรือเดินเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อระบบไหลเวียนเลือดและสุขภาพข้อเข่าให้กับวัยทองได้อย่างแน่นอน
สารสกัดจาก แปะก๊วย ใน DNAe Flavoplus มีคุณสมบัติในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือด โดยเฉพาะในสมองและส่วนปลาย ช่วยปรับปรุงความจำและการรู้คิด ต้านอนุมูลอิสระ และลดการอักเสบ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับวัยทองที่มีความเสี่ยงสูงต่อปัญหาหลอดเลือดและโรคหัวใจ
และ งาดำ ที่อุดมไปด้วยกรดไขมันที่มีประโยชน์ แร่ธาตุ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดคอเลสเตอรอล ปรับสมดุลฮอร์โมน และส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้กับวัยทองได้เป็นอย่างดี
3. การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินอาหาร
จากการเปลี่ยนแปลงของวรูปแบบการรับประทานอาหารในวัยทอง อินูลิน พรีไบโอติกในผลิตภัณฑ์นี้ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้ให้กับวัยทองได้อย่างดีเยี่ยม
เพราะ อินูลิน ใน DNAe Flavoplus เป็นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติก ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ซึ่งสำคัญมากสำหรับสุขภาพกระดูกในวัยทอง
4. ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
จากการอยู่ในที่แออัดและการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม แครนเบอร์รี่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันการติดเชื้อบางชนิด
โดย แครนเบอร์รี่ มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวัยทอง ในการป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย
ส่วนคุณผู้ชายวัยทองไม่ต้องน้อยใจไป เพราะเรามี ดีเน่ แอนโดรพลัส (DNAe Androplus) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับสุขภาพวัยทองของคุณผู้ชาย เช่นเดียวกันด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัด กิจกรรมทางกายที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรับประทานอาหาร ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงวัยที่ร่างกายกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดีเน่ แอนโดรพลัส จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองและเสริมภูมิคุ้มกันให้คุณได้เป็นอย่างดี ด้วยสารสกัดธรรมชาติ 7 ชนิด
*ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
1. การต่อสู้กับภาวะเครียดจากความร้อน
ส่วนผสมของโสมเกาหลี แอล อาร์จีนีน และแปะก๊วยใน DNAe Androplus ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดและความสามารถในการปรับตัวของร่างกายต่อความร้อน ซึ่งช่วยต่อสู้กับภาวะเครียดจากความร้อน และป้องกันการควบคุมอุณหภูมิร่างกายเสื่อมถอยที่พบในวัยทอง
2. การเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
โสมเกาหลี ซิงค์ และกระชายดำทำงานร่วมกันเพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงในวัยทอง ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่มักพบในช่วงสงกรานต์
3. การสนับสนุนการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
ส่วนผสมของฟีนูกรีก แอล อาร์จีนีน และซิงค์ใน DNAe Androplus ช่วยสนับสนุนมวลกล้ามเนื้อและการฟื้นฟู ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับวัยทองที่กล้ามเนื้อลดลง และอาจเผชิญกับความท้าทายจาก การยืนหรือเดินเป็นเวลานานในระหว่างเทศกาล
4. การปรับสมดุลฮอร์โมน
โสมเกาหลี ฟีนูกรีก และซิงค์ใน DNAe Androplus ช่วยสนับสนุนการผลิตฮอร์โมนที่สมดุลในร่างกาย ช่วยต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในวัยทอง ที่ส่งผลให้ร่างกายมีความอ่อนแอและเปราะบางต่อความเครียดและโรคต่างๆ มากขึ้น
5. การป้องกันระบบหัวใจและหลอดเลือด
แอล อาร์จีนีน แปะก๊วย และงาดำใน DNAe Androplus ช่วยสนับสนุนการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในสภาวะที่ท้าทาย ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดที่พบบ่อยในวัยทอง
โดย ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพวัยทองสูตรสำหรับคุณผู้หญิง และ ดีเน่ แอนโดรพลัส (DNAe Androplus) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับสุขภาพวัยทองของคุณผู้ชาย จะมาในรูปแบบแคปซูล แต่ละขวดบรรจุ 30 แคปซูล แต่ละแคปซูลบรรจุ 500 มิลลิกรัมของสารสกัดรวม
แนะนำให้คุณผู้อ่านรับประทานหนึ่งแคปซูลต่อวัน พร้อมอาหารเช้าหรือกลางวัน เพื่อเพิ่มพลังงานตลอดวันสำหรับกิจกรรมสงกรานต์ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพดีไปด้วยกันทุกวัน
ข้อควรระวังในการใช้ยาสำหรับวัยทอง
วัยทองเป็นช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาหลายประการ ทำให้การตอบสนองต่อยาแตกต่างไปจากวัยหนุ่มสาว เพื่อให้การใช้ยาในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นไปอย่างถูกต้อง และต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนและกิจกรรมที่หลากหลาย
เรารวบรวมข้อควรระมัดระวังในการใช้ยาสำคัญมาฝากคุณผู้อ่านวัยทองทุกท่านกัน
หลักการพื้นฐานในการใช้ยาอย่างปลอดภัยสำหรับวัยทอง
- หลักการใช้ยาทั่วไป
- วัยทองควรเริ่มต้นการใช้ยาด้วยขนาดยาต่ำและค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาหลายชนิดโดยไม่จำเป็น
- ตรวจสอบปฏิกิริยาระหว่างยาทุกครั้งก่อนเริ่มใช้ยาชนิดใหม่
- แนะนำให้วัยทองควรสังเกตอาการผิดปกติของร่างกายตนเองหลังการใช้ยา แม้จะเป็นยาสามัญประจำบ้านที่เคยใช้มาก่อนและไม่มีปัญหาก็ตาม
- แนวทางการเตรียมและใช้ยาในช่วงเทศกาล
- วัยทองควรจัดทำตารางการรับประทานยาที่ชัดเจน โดยเฉพาะยาประจำ
- แนะนำให้วัยทองใช้กล่องแบ่งยาตามมื้อเพื่อป้องกันการลืมหรือรับประทานยาซ้ำ
- วัยทองควรพกบัตรรายการยาประจำตัวที่ระบุชื่อยา ขนาด และวิธีใช้
- เก็บยาในที่เหมาะสม ไม่ร้อนหรือชื้นเกินไป โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ที่อากาศร้อนและชื้น
ข้อควรระวังเฉพาะสำหรับยาแต่ละกลุ่ม
ยาลดไข้ บรรเทาปวด
- พาราเซตามอล
- วัยทองไม่ควรใช้เกินขนาดที่แนะนำ (ไม่เกิน 4,000 มก.ต่อวัน ในผู้ที่มีสุขภาพดี และไม่เกิน 3,000 มก.ต่อวันในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคตับ)
- แนะนำให้วัยทองระวังการใช้ในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดพิษต่อตับ
- ตรวจสอบส่วนประกอบของยาแก้หวัด ยาแก้ปวด ว่ามีพาราเซตามอลเป็นส่วนผสมหรือไม่ เพื่อป้องกันการได้รับยาเกินขนาด
- ยากลุ่ม NSAIDs หรือกลุ่มโรคเรื้อรัง (ไอบูโพรเฟน นาพรอกเซน แอสไพริน)
- วัยทองไม่ควรใช้หรือให้ยาในผู้ที่มีประวัติแผลในกระเพาะอาหาร โรคไตเรื้อรัง หรือหัวใจล้มเหลว
- วัยทองควรรับประทานหลังอาหารทันที เพื่อลดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร
- ระวังการใช้ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาลดความดันโลหิต หรือยาขับปัสสาวะ
- ในช่วงสงกรานต์ที่อากาศร้อน ยากลุ่มนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้
ยาแก้แพ้ แก้คัน
- ยาแก้แพ้กลุ่มที่ทำให้ง่วง
- หากมีการใช้ยากลุ่มนี้ วัยทองควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรือทำงานกับเครื่องจักรหลังรับประทานยาเข้าไป
- แนะนำให้วัยทองระวังการใช้ร่วมกับยาที่มีฤทธิ์กดประสาทอื่นๆ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- การรับประทานยากลุ่มนี้เข้าไปอาจทำให้วัยทองมีอาการปากแห้ง ปัสสาวะลำบาก และท้องผูกได้
- ยาแก้แพ้กลุ่มที่ไม่ทำให้ง่วง (เช่น เซทิริซีน ลอราทาดีน)
- แม้จะปลอดภัยมากกว่ากว่า แต่ยังอาจทำให้ง่วงได้ในกลุ่มวัยทองบางท่าน
- ปรับลดการใช้ขนาดยาในวัยทองหรือผู้ที่มีการทำงานของไตบกพร่อง
- ยาบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับยารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ครีมสเตียรอยด์
- วัยทองไม่ควรใช้บริเวณใบหน้าเป็นเวลานาน
- แนะนำให้วัยทองหลีกเลี่ยงการใช้บนผิวที่มีบาดแผลหรือมีการติดเชื้อ
- ไม่ควรปิดทับบริเวณที่ทายาด้วยพลาสติกหรือผ้า เนื่องจากเพิ่มการดูดซึมยาและเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง
ยาแก้ท้องเสียและยาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
- ยาแก้ท้องเสีย
- แนะนำวัยทองว่าไม่ควรใช้เมื่อมีไข้สูง หรือมีมูกเลือดปนในอุจจาระ
- วัยทองไม่ควรยาใช้ติดต่อกันเกิน 2 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์
- ระวังการใช้ในวัยทองหรือผู้ที่มีปัญหาการทำงานของตับ
- ยาลดกรด
- ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียมอาจทำให้ท้องผูก ส่วนที่มีแมกนีเซียมอาจทำให้ท้องเสีย
- ยาลดกรดอาจลดการดูดซึมของยาอื่นที่รับประทานในเวลาใกล้เคียงกัน ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
- ผู้ที่มีโรคไตควรหลีกเลี่ยงยาลดกรดที่มีแมกนีเซียมหรืออะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ
- ยาระบาย
- ไม่ควรใช้ยาระบายกลุ่มกระตุ้นลำไส้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ยาระบายบางชนิดอาจทำให้เกิดการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ ซึ่งเป็นอันตรายในช่วงอากาศร้อน
- ควรดื่มน้ำมากๆ เมื่อใช้ยาระบายกลุ่มเพิ่มกาก มิฉะนั้นอาจทำให้ท้องอืดหรืออุดตันได้
ข้อควรระวังเฉพาะในช่วงสงกรานต์
- การใช้ยาในสภาพอากาศร้อน
- ยาบางชนิดเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคลมแดด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาแก้แพ้ ยาลดความดัน
- ยาบางประเภทอาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น (Photosensitivity) เช่น ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยาลดไขมัน ยารักษาสิว
- ควรเก็บยาในที่เย็น ไม่โดนแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ
- การเล่นน้ำและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- การดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับยาหลายชนิดเป็นอันตราย โดยเฉพาะยาแก้แพ้ ยานอนหลับ ยาลดความดัน
- แอลกอฮอล์เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำและทำให้ฤทธิ์ของยารุนแรงขึ้น
- การเล่นน้ำทำให้ยาทาผิวหนังถูกชะล้างออกไป ควรทายาซ้ำหลังเล่นน้ำ
- การปรับเวลารับประทานยา
- ยาที่ต้องรับประทานพร้อมอาหาร ควรระมัดระวังในช่วงที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาและมื้ออาหาร
- ไม่ควรปรับเปลี่ยนเวลารับประทานยาสำคัญ เช่น ยาเบาหวาน ยาความดัน โดยไม่ปรึกษาแพทย์
- หากลืมรับประทานยาให้ปฏิบัติตามคำแนะนำสำหรับยาแต่ละชนิด ไม่ควรรับประทานยาในขนาดเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชย
เมื่อใดควรพบแพทย์โดยด่วน
แม้จะมียาสามัญประจำบ้านเพื่อใช้รักษาอาการเบื้องต้น แต่มีบางกรณีที่ผู้สูงวัยควรพบแพทย์โดยไม่รอ…
- อาการที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ใจสั่น เหงื่อออกผิดปกติ
- อาการทางสมอง ปวดศีรษะรุนแรง สับสน พูดไม่ชัด อ่อนแรงหรือชาครึ่งซีก
- อาการติดเชื้อรุนแรง ไข้สูง หนาวสั่น ผื่นแดงลามอย่างรวดเร็ว
- ปฏิกิริยาแพ้ยา ผื่นลมพิษ หน้าบวม คอบวม หายใจลำบาก
- โรคลมแดด ตัวร้อนจัด ผิวแห้ง สับสน ชัก หมดสติ
- อาการแพ้รุนแรง หายใจลำบาก หน้าบวม ลมพิษทั่วตัว คลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ความดันโลหิตต่ำ
สรุป
เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและการรวมตัวของครอบครัว แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในวัยทองการเตรียมพร้อมด้านสุขภาพมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากร่างกายในวัยนี้มีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนและมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้น การจัดเตรียมยาสามัญประจำบ้านอย่างเหมาะสมไม่เพียงช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลที่บริการทางการแพทย์อาจเข้าถึงได้ยากกว่าปกติ
นอกจากการเตรียมยาแล้ว ควรใส่ใจกับข้อควรระวังในการใช้ยา โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคไต การเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและโรคประจำตัวจะช่วยลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของยา ที่สำคัญอย่าลืมดูแลสุขภาพแบบคูณสองด้วยตัวคุณเองง่ายๆ ผ่านอาหารเสริม DNAe ดีเน่ เพื่อวัยทองโดยเฉพาะ