ความท้าทายด้านสุขภาพในวัยทอง

ก่อนที่เราจะไปดูตัวเลือกอาหารสำหรับวัยทอง คุณผู้อ่านทุกท่านควรทำความเข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก่อน อาการวัยทองจะค่อยๆ เริ่มต้นเมื่อเราก้าวเข้าสู่วัย 40 – 50 ปีขึ้นไป โดยร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศลดลง ทั้งระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่พบได้ในผู้ชายและฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิง ส่งผลให้เกิดอาการต่างตามมา เช่น 

  1. การเปลี่ยนแปลงของมวลกระดูก
  2. การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว
  3. อาการร้อนวูบวาบ
  4. อารมณ์แปรปรวน
  5. ปัญหาการนอนหลับ
  6. เหงื่อออกในเวลากลางคืน
  7. ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
  8. เบาหวาน
  9. ความดันโลหิตสูง

หลักการเลือกอาหารสำหรับวัยทอง

ไม่เพียงแค่ปัญหาวัยทองที่จะพบเจอ เพราะการมีอายุที่เพิ่มขึ้น ก็ทำให้ระบบต่างๆ ทำงานได้น้อยลง โดยเฉพาะระบบการเผาผลาญของร่างกาย 

ดังนั้น… การเลือกอาหารสำหรับวัยทองที่เหมาะสมตามหลักโภชนาการ นอกจากจะช่วยลดอาการวัยทองในระยะเริ่มต้นและระยะยาวแล้ว ยังช่วยบำรุงวัยทองให้ผิวพรรณดี ไม่แห้งแตกลอก รวมถึงยังป้องกันโรคที่อาจเกิดจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไปได้อีกด้วย แล้วอาหารสำหรับวัยทองต้องกินอะไรบ้าง? เรามาเริ่มดูตั้งแต่สารอาหารบำรุงวัยทองที่จำเป็นกัน

1. สารอาหารที่จำเป็นในอาหารสำหรับวัยทอง

  • แคลเซียม: 1,000 – 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน

แคลเซียมไม่ได้มีประโยชน์แค่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงเท่านั้น แต่แคลเซียมยังมีส่วนช่วยควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ ช่วยในการเผาผลาญ และช่วยให้ระบบประสาททำงานเป็นปกติ จึงเป็นสารอาหารที่จำเป็นมากๆ ในอาหารสำหรับวัยทอง โดยสามารถพบได้จาก นม, ปลาเล็กปลาน้อย, ถั่วเหลือง, เต้าหู้, งาดำ, ผักใบเขียวลักษณะแข็งอย่าง คะน้า, ใบยอ, ใบชะพลู เป็นต้น

  • วิตามินดี: 800 – 1,000 IU ต่อวัน

ร่างกายของเราจะผลิตวิตามินดีจากตับและไตเมื่อผิวหนังได้รับแสงแดด แต่เมื่อก้าวเข้าสู่วัยทอง​​ระดับเอสโตรเจนที่ลดลงจะทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตวิตามินดีนั้นลดลงตามลงไปด้วย ทำให้เกิดการขาดวิตามินดีซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการกระดูกพรุนตามมาจึงเป็นสารอาหารที่จำเป็นมากๆ ในอาหารสำหรับวัยทอง ซึ่งเราจะสามารถรับวิตามินดีได้จากปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน เป็นต้น

  • โปรตีน: 0.8 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

สารอาหารสำหรับวัยทองที่จำเป็นถัดมา ก็คือ อาหารประเภทโปรตีนที่มีกรดอะมิโน อาร์จินีน เพื่อกระตุ้นให้ให้มีการหลั่งโกรทฮอร์โมน เช่น ถั่วเหลือง งาข้าว กุ้งแห้ง ปลาป่น ปลาทะเล ไข่ นม และผลิตภัณฑ์จากนม เป็นต้น

  • ใยอาหาร: 25 กรัมต่อวัน

การเลือกทานผักและผลไม้ให้ในแต่ละมื้ออาหารสำหรับวัยทองให้มากขึ้น นอกจากจะเป็นการช่วยเพิ่มวิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว กากใยจากผักและผลไม้ยังช่วยในเรื่องการขับถ่าย ลดอาการท้องผูกเรื้อรัง และช่วยให้สบายตัว เช่น ถั่วเหลือง ฝรั่ง แอปเปิ้ล น้ำมะพร้าว บีทรูท ชะอม แตงกวา ธัญพืช ข้าวสาลี เป็นต้น

ทั้งนี้ ในผักและผลไม้ยังอุดมด้วยสารไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงช่วยบรรเทาอาการวัยทองลงได้

  • ธาตุเหล็ก: 8 มิลลิกรัมต่อวัน

ธาตุเหล็ก ก็เป็นอีกหนึ่งสารอาหารสำหรับวัยทองที่จำเป็นมากๆ เช่นกัน โดยสามารถพบได้จาก ถั่วชนิดต่างๆ ตับ เลือด และเนื้อสัตว์ ผักที่มีสีเขียวเข้ม อาหารทะเล เป็นต้น

2. อาหารสำหรับวัยทองที่ควรหลีกเลี่ยง

นอกจากเราจะมีอาหารสำหรับวัยทองที่จำเป็นต่อการรับประทานแล้ว ก็ยังมีประเภทของอาหารสำหรับวัยทองที่ควรหลีกเลี่ยงด้วยเช่นกัน เพื่อลดอาการต่างๆ ในวัยทอง เรียกว่าเป็นอาหารลดอาการวัยทองก็ว่าได้ ประกอบไปด้วยอาหารประเภทต่างๆ ดังนี้

  • อาหารรสจัด
  • อาหารมันจัด
  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
  • แอลกอฮอล์
  • อาหารแปรรูป
  • อาหารรสหวานจัด

มหัศจรรย์อาหารสำหรับวัยทอง

จากประเภทของอาหารสำหรับวัยทองที่ควรหลีกเลี่ยงเยอะเหลือเกิน อาจทำให้คุณผู้อ่านหลายท่านถึงกับกุมขมับก็เป็นได้ แต่อย่าเพิ่งถอดใจไปซะก่อน เพราะเราได้รวบรวม 5 มหัศจรรย์อาหารสำหรับมาแนะนำให้คุณผู้อ่านได้ดูกัน เป็นอาหารสำหรับวัยทองที่รับรอบว่าเมื่อผู้อ่านได้อ่านแล้ว จะสามารถตัดข้อสงสัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัยทองกินอะไรดี? อาหารสำหรับวัยทองมีอะไรบ้าง? อาหารที่ลดอาการวัยทองเป็นยังไง? ได้อย่างแน่นอน

1. ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง

ประโยชน์:

  • มีไอโซฟลาโวนสูง ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน
  • ลดอาการร้อนวูบวาบ
  • เสริมสร้างมวลกระดูก
  • ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

วิธีรับประทาน:

  • ดื่มนมถั่วเหลืองวันละ 1-2 แก้ว
  • ทานเต้าหู้เป็นประจำ
  • เพิ่มถั่วเหลืองในสลัด

2. ปลาทะเลน้ำลึก

ประโยชน์:

  • อุดมด้วยโอเมก้า-3
  • ช่วยบำรุงสมอง
  • ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
  • บำรุงผิวพรรณ

ชนิดที่แนะนำ:

  • ปลาแซลมอน
  • ปลาทูน่า
  • ปลาซาร์ดีน
  • ปลาแมคเคอเรล

3. ผักใบเขียวเข้ม

ประโยชน์:

  • อุดมด้วยแคลเซียม
  • มีวิตามินเคสูง
  • ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ตัวอย่างผัก:

  • คะน้า
  • ผักโขม
  • บรอกโคลี
  • ผักใบเขียวต่างๆ

4. เมล็ดธัญพืช

ประโยชน์:

  • มีไฟเบอร์สูง
  • อุดมด้วยวิตามินอี
  • มีแร่ธาตุที่จำเป็น
  • ช่วยควบคุมน้ำหนัก

ชนิดที่แนะนำ:

  • เมล็ดเจีย
  • เมล็ดแฟลกซ์
  • งาดำ
  • เมล็ดฟักทอง

5. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ประโยชน์:

  • มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
  • ช่วยชะลอวัย
  • บำรุงสมอง
  • เสริมภูมิคุ้มกัน

ชนิดที่แนะนำ:

  • บลูเบอร์รี่
  • สตรอเบอร์รี่
  • ราสเบอร์รี่
  • โกจิเบอร์รี่

แนะนำเมนูอาหารสำหรับวัยทอง

เพราะเมื่อเข้าสู่วัยทองมักมาพร้อมกับอารมณ์ที่แปรปรวน ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารสำหรับวัยทองจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ได้จากถั่วเหลืองทุกชนิด ควรรับประทานเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะมีช่วยลดอาการร้อนวูบวาบได้ อีกทั้งยังสามารถช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อีกด้วย

วันนี้เราจึงมีตัวอย่างเมนูอาหารสำหรับวัยทองที่หาซื้อได้ง่าย หรือจะทำเองก็ง่ายมาแนะนำผู้อ่านทุกท่าน รับรองว่ารสชาติอร่อย และได้ประโยชน์จากสารอาหารเต็มๆ

มื้อเช้า

  1. โจ๊กถั่วเหลืองใส่ผักใบเขียว
  2. สลัดผักรวมใส่ปลาทูน่า
  3. โยเกิร์ตกับเบอร์รี่และธัญพืช

มื้อกลางวัน

  1. ข้าวกล้องกับปลาย่างและผักต้ม
  2. สลัดเต้าหู้
  3. ซุปผักรวมใส่เต้าหู้

มื้อเย็น

  1. สลัดปลาแซลมอน
  2. ข้าวผัดธัญพืชกับผักรวม
  3. สปาเก็ตตี้ผัดผักรวมกับเต้าหู้

*หมายเหตุ: ไม่ควรรับประทานน้ำตาลมากกว่า 6 ช้อนชาต่อวัน

อาหารเสริมสำหรับวัยทองที่ควรพิจารณา

จาก 5 อาหารมหัศจรรย์ด้านบนที่เราแนะนำและกล่าวถึงนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสารอาหารสำหรับวัยทองต้องการ แต่การที่จะทานให้ได้ครบถ้วนในแต่ละมื้อก็อาจจะเป็นเรื่องยากมากเช่นกัน แต่อยากจะบอกผู้อ่านทุกท่านว่าไม่ต้องกังวลในส่วนนี้มากจนเกินไป เพราะตามท้องตลาดในปัจจุบันนี้ รวมถึงช่องทางออนไลน์ต่างๆ ได้มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆ มากมายที่จะช่วยลดอาการและบำรุงไปพร้อมๆ กัน

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยความที่มีเยอะมากในท้องตลาด แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร? ว่ายี่ห้อไหนดี, ยี่ห้อไหนผลิตตามหลักที่ อย. รับรอง, สารตัวนี้สามารถทานได้จริงๆ ไหม? และเป็นอาหารสำหรับวัยทองที่ทานเสริมได้จริงๆ หรือเปล่า? 

วันนี้มีทางเลือกดีๆ มาฝากคุณผู้อ่านกับผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับวัยทองที่ทานเสริมมื้ออาหารได้ทุกวันจาก “ดีเน่ ฟวาโวพลัส” DNAe Flavoplus ผลิตภัณฑ์จากคุณหมอและเภสัญไทยที่น่าเชื่อถือ มีงานวิจัยรองรับมากถึง 7 ชิ้น และผ่านการรับรองจาก อย.

“ดีเน่ ฟวาโวพลัส” DNAe Flavoplus เป็นผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับวัยทองที่ทานเสริมในรูปแบบแคปซูลผ่านสารสกัดเข้มข้นจากธรรมชาติ โดยเฉพาะสารสกัดจาก “ถั่วเหลือง” ที่นำเข้าจากสเปน และเป็นสารอาหารสำหรับวัยทองที่แนะนำให้ทานเป็นอย่างมาก เพราะมีส่วนช่วยในการลดและแก้อาการร้อนวูบวาบในวัยทองได้ดี เพียงทานครั้งละ 1 แคปซูลหลังมืออาหารใดก็ได้

นอกจากสารสกัดหลักที่สำคัญอย่าง ถั่วเหลือง ที่มีส่วนในช่วยในการลดอาการร้อนวูบวาบในวัยทองแล้ว ยังมีสารสกัดตัวอื่นๆ ที่คุณหมอหลายๆ ท่านแนะนำให้ทานในมื้ออาหารสำหรับวัยทองอีก เช่น 

  1. งาดำ ช่วยบำรุงเส้นผม ลดการอักเสบของกระดูกและข้อ
  2. ตังกุย บำรุงเลือดให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น ลดอาการร้อนวูบวาบ
  3. แปะก๋วย เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปบำรุงสมอง ช่วยเพิ่มความจำ หลับสบาย
  4. อินูลิน พรีไบโอติก ช่วยปรับสมดุลทางเดินอาหารและลำไส้ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  5. สารสกัด Organic แครนเบอร์รี่ ช่วยให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส เพิ่มคอลลาเจน ทำให้ผิวไม่เหี่ยวย่นแก่ก่อนวัยและมีงานวิจัยว่าสามารถลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ลดอาการแสบขัด กะปริดกะปรอยได้

เทคนิคการรับประทานอาหารสำหรับวัยทอง

นอกจากการแนะนำอาหารสำหรับวัยทองที่ควรรับประทานและควรหลีกเลี่ยงแล้ว เทคนิคการแบ่งอาหารรับประทานในลักษณะเป็นมื้อย่อยๆ รับประทานครั้งละน้อยๆ ในแต่ละครั้งก็ช่วยให้ระบบเผาผลาญของคนวัยทองทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องอืด จุกเสียดแน่น และยังส่งผลให้น้ำตาลในเลือดคงที่ ไม่เหนื่อยล้าง่าย นอกจากนั้นยังมีเทคนิคอื่นๆ อีก เช่น

  1. การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
  2. เน้นรับประทานอาหารสำหรับวัยทองที่ย่อยง่าย
  3. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารก่อนนอน
  4. เพิ่มการรับประทานผักและผลไม้

สรุป

การเลือกทานอาหารที่อร่อย รสชาติถูกปาก เป็นเพียงแค่การสร้างความสุขเพียงชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารสำหรับวัยทองที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการเน้นอาหารที่มีประโยชน์ทั้ง 5 ชนิดที่แนะนำควบคู่ไปกับดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ จะช่วยให้คุณผู้อ่านผ่านช่วงวัยทองไปได้อย่างมีความสุข มีสุขภาพดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

สิ่งสำคัญอย่าลืมว่า… ร่างกายของแต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกัน การปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญในการก้าวผ่านวัยทองเป็นอย่างยิ่ง