ปัญหาอากาศร้อน และการนอนไม่หลับในวัยทอง

เรียกว่าช่วงมีนาคมเป็นต้นมา…หน้าร้อนในประเทศไทยมาพร้อมกับอุณหภูมิที่สูงขึ้น ความชื้นสูง และความไม่สบายตัวที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพการนอนหลับ สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงวัยทอง ทำให้ปัญหาการนอนไม่หลับในอากาศหน้าร้อนยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้านพร้อมกัน ทั้งการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน และการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาที่มาพร้อมกับวัย

และปัญหาอากาศร้อนนอนไม่หลับในวัยทองไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม ทั้งสภาพร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และประสิทธิภาพในการทำงาน หลายคนอาจมองข้ามความสำคัญของการนอนหลับที่มีคุณภาพ แต่ในความเป็นจริง การนอนหลับที่เพียงพอและมีคุณภาพเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้วัยทองมีสุขภาพดีและชะลอความเสื่อมของร่างกายได้

แล้วทำไมวัยทองถึงนอนไม่หลับ…ในช่วงที่อากาศร้อน?

ทำไมวัยทองถึงนอนไม่หลับในหน้าร้อน?

เมื่ออากาศร้อนขึ้น อาการนอนไม่หลับเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในวัยทอง โดยเฉพาะในช่วงอายุ 45 – 60 ปี แต่ทำไมวัยทองถึงมีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ? คำตอบอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้านที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน สภาพอากาศ และการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของร่างกาย

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในวัยทอง

สาเหตุหลักที่ทำให้ “วัยทองนอนไม่หลับ” คือ การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงและฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชาย ฮอร์โมนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมวงจรการนอนหลับและอุณหภูมิร่างกาย

  • ในผู้หญิงวัยทอง การลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนส่งผลให้เกิดอาการร้อนวูบวาบ และเหงื่อออกตอนกลางคืน ซึ่งเป็นอาการที่รบกวนการนอนหลับอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่อากาศร้อนอยู่แล้ว การเกิดอาการร้อนวูบวาบในห้องนอนที่มีอุณหภูมิสูงยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดและนอนหลับยากมากขึ้น
  • สำหรับผู้ชายวัยทอง แม้จะไม่มีอาการร้อนวูบวาบเหมือนผู้หญิง แต่การลดลงของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนก็ส่งผลต่อคุณภาพการนอนเช่นกัน การศึกษาทางการแพทย์พบว่า ผู้ชายที่มีระดับเทสโทสเตอโรนต่ำมักมีปัญหาการนอนหลับลึกน้อยลง ซึ่งเป็นช่วงการนอนที่สำคัญต่อการฟื้นฟูร่างกายและสมอง
  • ผลของอุณหภูมิสูงในหน้าร้อนต่อการนอนหลับ

มนุษย์มีกลไกการควบคุมอุณหภูมิร่างกายตามธรรมชาติเพื่อให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพ โดยอุณหภูมิร่างกายจะลดลงเล็กน้อยในช่วงกลางคืนเพื่อส่งสัญญาณให้ร่างกายพร้อมเข้าสู่การนอนหลับ แต่ในหน้าร้อนของประเทศไทยที่อากาศร้อนมีอุณหภูมิอาจสูงถึง 35 – 40 องศาเซลเซียส สภาพอากาศร้อนอบอ้าวทำให้ร่างกายยากที่จะลดอุณหภูมิลงได้อย่างเพียงพอสำหรับการนอนหลับที่มีคุณภาพ

สำหรับวัยทอง การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้ระบบควบคุมอุณหภูมิร่างกายทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดความยากลำบากในการปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิสูงในช่วงอากาศร้อน ผู้หญิงวัยทองมักจะรู้สึกร้อนมากกว่าคนทั่วไป และอาจตื่นกลางดึกเพราะความร้อนและเหงื่อออกมากในช่วงกลางคืน

  • การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาที่ส่งผลต่อการนอนหลับ

นอกจากฮอร์โมนและอุณหภูมิอากาศร้อนแล้ว วัยทองยังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาอื่นๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ เช่น

  1. ปัญหาระบบทางเดินปัสสาวะ ผู้หญิงวัยทองมักมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ ทำให้ต้องตื่นกลางดึกเพื่อเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง
  2. โรคนอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ในวัยทองมีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อโรคนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในช่วงวัยนี้
  3. ปัญหาข้อต่อและกล้ามเนื้อ อาการปวดข้อและกล้ามเนื้อที่พบบ่อยในวัยทองอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและนอนไม่หลับ โดยเฉพาะในอากาศร้อนที่ความร้อนอาจทำให้อาการปวดรุนแรงขึ้น
  4. ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในวัยทองส่งผลต่ออารมณ์และจิตใจ ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าหรือความวิตกกังวลได้ง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหานอนไม่หลับ
  • ผลของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตในวัยทอง

เมื่อคุณผู้อ่านได้ก้าวเข้าสู่วัยทองที่มักมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินชีวิตต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนหลับ เช่น

  1. ความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงบทบาทในชีวิต การเกษียณ การเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในครอบครัว หรือการสูญเสียคนใกล้ชิด อาจนำมาซึ่งความเครียดและความวิตกกังวลที่ส่งผลต่อการนอนหลับของวัยทอง
  2. การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวัน เมื่อเข้าสู่วัยทอง หลายคนอาจมีเวลาว่างมากขึ้น มีกิจกรรมทางกายน้อยลง หรือมีตารางการนอนที่ไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลเสียต่อวงจรการนอนหลับตามธรรมชาติ
  3. การใช้ยาเพิ่มขึ้น วัยทองมักมีโรคประจำตัวมากขึ้นและต้องใช้ยาหลายชนิด ซึ่งผลข้างเคียงของยาบางอย่างอาจรบกวนการนอนหลับ
  4. การบริโภคแอลกอฮอล์และคาเฟอีน วัยทองบางคนอาจพึ่งพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อช่วยให้นอนหลับ หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ส่งผลเสียต่อคุณภาพการนอนหลับในระยะยาวของวัยทอง

ผลกระทบของการนอนไม่หลับต่อสุขภาพวัยทอง อันเนื่องมาจากอากาศร้อน

หลายท่านน่าจะทราบกันดีกว่าการนอนไม่หลับในวัยทองไม่ใช่เพียงปัญหาความไม่สบายชั่วคราว แต่เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายมิติ เมื่อร่างกายเข้าสู่วัยทอง การนอนไม่หลับอย่างต่อเนื่องยิ่งส่งผลเสียมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการการฟื้นฟูและซ่อมแซมมากเป็นพิเศษ

1. ผลกระทบทางกายภาพ

การนอนไม่หลับส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพร่างกายของวัยทอง โดยเฉพาะในระบบภูมิคุ้มกัน การศึกษาทางการแพทย์พบว่า วัยทองที่นอนไม่เพียงพอจะมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง ทำให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูงขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายมากสำหรับวัยทองและผู้สูงวัยที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาวอยู่แล้ว

นอกจากนี้การนอนไม่หลับยังส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด โดยเพิ่มความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง ในขณะเดียวกันสำหรับวัยทองการนอนไม่หลับยังส่งผลต่อระบบเมตาบอลิซึมและการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และภาวะอ้วนลงพุง เนื่องจากการนอนไม่เพียงพอทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความหิวเพิ่มขึ้น และลดการหลั่งฮอร์โมนอิ่มส่งผลให้รู้สึกหิวบ่อยและกินมากขึ้น ยิ่งในช่วงที่มีอากาศร้อนมากขึ้น ยิ่งส่งผลต่อวัยทองต่อภาวะการนอนไม่หลับเพิ่มเติม

2. ผลกระทบทางจิตใจและอารมณ์

ไม่เพียงแต่ร่างกายที่ได้รับผลกระทบจากการนอนไม่หลับของวัยทอง แต่จิตใจและอารมณ์ก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน โดยเฉพาะในวัยทองที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอยู่แล้ว การนอนไม่หลับยิ่งทำให้อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย เครียด และวิตกกังวลมากขึ้น

นอกจากนี้การขาดการนอนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของภาวะซึมเศร้าต่อตัวของวัยทองเอง 07:01/68 โดยมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าถึง 2 – 3 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่นอนหลับเพียงพอ รวมถึงยังส่งผลต่อความจำและสมาธิ ทำให้คิดช้า ตัดสินใจผิดพลาด และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

3. ผลกระทบต่อความจำและสมรรถภาพทางสมอง

การนอนหลับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สมองใช้จัดระเบียบข้อมูลและความทรงจำใหม่ๆ ที่ได้รับในแต่ละวัน การนอนไม่หลับจึงส่งผลโดยตรงต่อความจำและการเรียนรู้ โดยเฉพาะในวัยทองและผู้สูงวัยที่ความสามารถในการจดจำเริ่มถดถอยตามธรรมชาติอยู่แล้ว

จากการศึกษาพบว่าการนอนไม่หลับระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม และอัลไซเมอร์ในวัยทอง 08:02/68 เนื่องจากในระหว่างการนอนหลับลึกสมองจะกำจัดโปรตีนเบต้า-อะมิลอยด์ ซึ่งเป็นสารที่สะสมในสมองและเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หากนอนไม่เพียงพอกระบวนการนี้จะถูกรบกวน ทำให้มีการสะสมของโปรตีนดังกล่าวเพิ่มขึ้นและเป็นปัญหาตามมาในวัยทอง

4. ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม

การนอนไม่หลับส่งผลให้คุณภาพชีวิตโดยรวมของวัยทองและผู้สูงวัยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ผู้ที่นอนไม่หลับมักรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ไม่สดชื่น ส่งผลต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ความสามารถในการทำงาน และความสัมพันธ์กับผู้อื่น

นอกจากนี้…การนอนไม่หลับยังส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศในวัยทอง โดยเฉพาะในผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลงอยู่แล้ว การนอนไม่เพียงพอยิ่งทำให้ระดับฮอร์โมนเพศลดลงไปอีก ส่งผลให้มีปัญหาเรื่องความต้องการทางเพศและสมรรถภาพทางเพศตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

5. ผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาในวัยทอง

วัยทองเป็นช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาหลายประการ เช่น การลดลงของมวลกระดูก การลดลงของมวลกล้ามเนื้อ และการเพิ่มขึ้นของไขมันในร่างกาย การนอนไม่หลับยิ่งเร่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ให้เกิดเร็วขึ้นและรุนแรงขึ้น

การขาดการนอนส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth hormone) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและรักษามวลกล้ามเนื้อ การนอนไม่เพียงพอจึงเร่งกระบวนการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในผู้สูงวัย ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง และเพิ่มความเสี่ยงในการหกล้มและกระดูกหัก

วิธีแก้ปัญหานอนไม่หลับในหน้าร้อนสำหรับวัยทอง

การนอนไม่หลับในช่วงที่อากาศร้อนเป็นปัญหาที่ท้าทายอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงวัยทอง เมื่อปัจจัยด้านฮอร์โมนผสมผสานกับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ปัญหานี้ยิ่งทวีความรุนแรง 

และเพื่อให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้หลับอย่างสบายใจ หลับลึก และหลับยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย เราก็ไม่พลาดรวบรวมคำแนะนำมาฝากกันอีกเช่นเคย

1. การจัดการกับปัญหาด้านฮอร์โมน ด้วยฮอร์โมนบำบัด (HRT)

การบำบัดทดแทนฮอร์โมน เป็นีอกวิธีหนึ่งที่แพทย์อาจแนะนำสำหรับผู้หญิงที่มีอาการร้อนวูบวาบและเหงื่อออกตอนกลางคืนรุนแรง การบำบัดนี้ช่วยเพิ่มระดับเอสโตรเจนในร่างกาย ซึ่งสามารถลดอาการเหล่านี้และปรับปรุงคุณภาพการนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

อย่างไรก็ตาม การบำบัดทดแทนฮอร์โมนไม่เหมาะกับทุกคน แนะนำให้ทุกท่านควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ที่อาจได้รับ

2. อาหารเสริมธรรมชาติ

นอกจากการรับประสิทธิอาหารมื้อหลักที่ดี และมีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ยังมีอาหารเสริมธรรมชาติหลายชนิดที่อาจช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้ และช่วยให้นอนหลับได้ดีมากขึ้น

  • โสมเกาหลี (Korean Ginseng) จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าโสมเกาหลีอาจช่วยลดอาการร้อนวูบวาบและปรับปรุงคุณภาพการนอนของวัยทองได้
  • แบล็คโคฮอช (Black Cohosh) สมุนไพรที่นิยมใช้เพื่อบรรเทาอาการวัยทองในผู้หญิง รวมถึงอาการนอนไม่หลับ
  • วิตามินอี อาจช่วยลดความรุนแรงของอาการร้อนวูบวาบในวัยทอง
  • แคลเซียมและวิตามินดี ช่วยในการผลิตเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมวงจรการนอนหลับเพื่อให้วัยทองได้นอนหลับง่ายยิ่งขึ้น

3. การจัดการกับความร้อน

นอกจากการควบคุมอุณหภูมิร่างกายแล้ว การควบคุมสภาพแวดล้อมภายในบ้านก็เป็นกลยุทธ์สำคัญในการรับมือกับปัญหาอากาศร้อนที่ส่งผลต่อการนอนไม่หลับ

การปรับอุณหภูมิห้องนอน

  • ใช้เครื่องปรับอากาศ แนะนำให้วัยทองตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 24 – 26 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการนอนหลับ
  • ใช้พัดลม หากไม่มีเครื่องปรับอากาศ การใช้พัดลมช่วยให้อากาศหมุนเวียนสามารถช่วยให้รู้สึกวัยทองเย็นสบายขึ้นได้
  • ระบบระบายอากาศ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าห้องนอนมีการระบายอากาศที่ดี เพื่อลดความชื้นและอุณหภูมิ

เครื่องนอนและชุดนอน

  • เลือกผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือผ้าไหมระบายอากาศได้ดีกว่าเส้นใยสังเคราะห์ ทำให้วัยทองนอนหลับสบายยิ่งขึ้น
  • ใช้ผ้าห่มบางเบา แนะนำให้วัยทองเลือกผ้าห่มที่ระบายอากาศได้ดีและเหมาะกับอากาศร้อน
  • สวมชุดนอนที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ชุดนอนผ้าฝ้าย 100% จะช่วยให้ร่างกายของวัยทองระบายความร้อนได้ดีกว่าชุดธรรมดาทั่วไป

เทคนิคลดความร้อนก่อนนอน

  • อาบน้ำอุ่นก่อนนอน  แม้จะฟังดูขัดกับอากาศที่เจอ แต่การอาบน้ำอุ่น (ไม่ร้อนจัด) ก่อนนอนประมาณ  1 – 2 ชั่วโมง จะช่วยให้อุณหภูมิร่างกายของวัยทองลดลงหลังจากนั้น เนื่องจากร่างกายจะทำงานเพื่อลดความร้อนหลังอาบน้ำ
  • วางผ้าเย็นบนหน้าผากหรือต้นคอ ช่วยลดอุณหภูมิร่างกายและบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ
  • ใช้หมอนเจล หมอนเจลที่แช่เย็นสามารถช่วยให้ศีรษะและลำคอเย็นตลอดคืน

4. การปรับพฤติกรรมการนอน

วัยทองทุกท่านควรสร้างวินัยการนอนให้กับตนเอง ซึ่งเป็นการสร้างสุขอนามัยการนอนที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับวัยทองที่มีปัญหาการนอนและในช่วงที่อากาศร้อนขึ้น หลีกเลี่ยงการนอนที่ไม่ดีเพราะแถมโรคนั่นเอง 03:01/68

สร้างกิจวัตรการนอนที่สม่ำเสมอ

  • เข้านอนและตื่นนอนเวลาเดียวกันทุกวัน แม้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ การรักษาตารางการนอนที่สม่ำเสมอช่วยปรับนาฬิกาชีวภาพของร่างกายวัยทองได้
  • สร้างพิธีก่อนนอน ทำกิจกรรมผ่อนคลายเดิมๆ ก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบาๆ หรือทำสมาธิ เพื่อส่งสัญญาณให้ร่างกายของวัยทองนั้นรู้ว่าถึงเวลานอน

หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น

  • งดคาเฟอีนหลังบ่าย คาเฟอีนมีฤทธิ์อยู่ในร่างกายนานถึง 8 ชั่วโมง และสามารถรบกวนการนอนหลับของวัยทองได้
  • หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ก่อนนอน แม้แอลกอฮอล์อาจช่วยให้หลับได้เร็วขึ้น แต่จะทำให้คุณภาพการนอนแย่ลงและอาจทำให้ตื่นกลางดึกแทน เมื่อยิ่งเจออากาศร้อนยิ่งรุนแรง
  • งดอาหารหนักก่อนนอน การย่อยอาหารหนัก ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นและอาจรบกวนการนอนของวัยทองตามมา
  • จำกัดการเปิดรับแสงสีฟ้า แนะนำให้วัยทองหลีกเลี่ยงหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ (โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์) อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน เนื่องจากแสงสีฟ้ายับยั้งการผลิตเมลาโทนิน

5. เทคนิคการผ่อนคลายและจิตใจ

อย่างที่วัยทองทุกท่านเข้าใจ ไม่เพียงแค่อากาศร้อน อุณหภูมิที่สูงขึ้น หรือฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง แต่ความเครียดและความวิตกกังวลสามารถทำให้ปัญหาการนอนไม่หลับแย่ลง การจัดการกับความเครียดจึงเป็นส่วนสำคัญของการแก้ปัญหา

การฝึกสมาธิและการหายใจ

  • การฝึกหายใจลึกๆ โดยให้วัยทองหายใจเข้าช้าๆ นับถึง 4 กลั้นหายใจ 2 วินาที และหายใจออกช้าๆ นับถึง 6 ทำซ้ำจนรู้สึกผ่อนคลาย
  • การทำสมาธิก่อนนอน ฝึกสมาธิเป็นเวลา 10 – 15 นาทีก่อนนอน ช่วยให้จิตใจสงบและเตรียมร่างกายชองวัยทองสำหรับการนอนหลับที่ดี
  • การสแกนร่างกาย ให้เริ่มจากปลายเท้าและค่อยๆ เลื่อนความสนใจขึ้นมาตามร่างกายจนถึงศีรษะ สังเกตความรู้สึกในแต่ละส่วนโดยไม่ตัดสิน

โยคะและการยืดเหยียด

  • โยคะนิทรา เป็นเทคนิคการผ่อนคลายที่ลึกซึ้งซึ่งช่วยให้ร่างกายและจิตใจของวัยทองผ่อนคลาย
  • ท่าโยคะก่อนนอน ท่าโยคะเบาๆ เช่น ท่าเด็ก หรือท่าศพ สามารถช่วยคลายความตึงเครียดในกล้ามเนื้อของร่างกายวัยทองได้

เทคนิคการผ่อนคลายอื่นๆ ในช่วงอากาศร้อน

  • การนวดตัวเอง นวดบริเวณไหล่ คอ และศีรษะเบาๆ เพื่อคลายความตึงเครียด
  • การเขียนบันทึก เขียนความคิดและความกังวลก่อนนอนเพื่อ “ปล่อยวาง” ความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัว
  • การฟังเสียงผ่อนคลาย เสียงธรรมชาติ เพลงบำบัด หรือแอพผ่อนคลายที่มีเสียงคลื่นสมองต่ำ สามารถช่วยกระตุ้นการนอนหลับให้กับวัยทองได้

6. การปรับพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกาย

นอกจากการเลือกรับประทานอาหารแล้ว การเคลื่อนไหวร่างกายก็มีผลโดยตรงต่อคุณภาพการนอน โดยเฉพาะในช่วงวัยทองที่อาการนอนไม่หลับคลืบคลานเข้ามาพร้อมกับอากาศร้อนในทุกวันนี้

อาหารที่ส่งเสริมการนอนหลับ

  • อาหารที่มีทริปโตเฟน เช่น นม กล้วย ไข่ ถั่ว และเนื้อไก่ ทริปโตเฟนเป็นสารตั้งต้นในการผลิตเมลาโทนินและเซโรโทนินชั้นดีให้กับวัยทอง
  • อาหารที่มีแมกนีเซียม เช่น ผักใบเขียว ถั่ว เมล็ดฟักทอง ข้าวกล้อง และธัญพืชไม่ขัดสี แมกนีเซียมช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและระบบประสาท ทำให้วัยทองนอนหลับได้ง่ายขึ้น
  • อาหารที่มีวิตามินบี 6 เช่น ปลา ไก่ กล้วย อโวคาโด ช่วยในการสร้างเมลาโทนินและเซโรโทนิน
  • อาหารที่มีแคลเซียม: เช่น นม โยเกิร์ต ผักคะน้า บรอกโคลี ช่วยร่างกายใช้ทริปโตเฟนในการผลิตเมลาโทนิน

เวลาและปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวัยทอง

  • รับประทานอาหารเย็นเบาๆ การรับประทานอาหารที่หนักเกินไปในช่วงเย็น จะทำให้ระบบย่อยอาหารของวัยทองนั้นทำงานหนัก ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นและรบกวนการนอนหลับ
  • รับประทานอาหารเย็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนนอน แนะนำให้วัยทองได้ให้เวลากับร่างกายเพื่อย่อยอาหารก่อนเข้านอน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอระหว่างวัน แต่ลดการดื่มน้ำก่อนนอน การดื่มน้ำมากเกินไปก่อนนอน อาจทำให้วัยทองต้องตื่นกลางดึกเพื่อเข้าห้องน้ำ และอาจทำให้นอนหลับยากมาขึ้น

การออกกำลังกายที่เหมาะสม

  • ออกกำลังกายแบบแอโรบิกเบาถึงปานกลาง การเดิน ว่ายน้ำ หรือโยคะ จะช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนและบรรเทาอาการวัยทองได้
  • ออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือบ่าย หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในช่วง 2-3 ชั่วโมง ก่อนนอน เนื่องจากจะกระตุ้นร่างกายและทำให้นอนยากขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในช่วงที่อากาศร้อน
  • การเดินหลังอาหารเย็น การเดินเบาๆ 10 – 15 นาทีหลังอาหารเย็น จะช่วยในการย่อยอาหารและลดระดับน้ำตาลในเลือดของวัยทอง

7. การใช้ความเย็นเพื่อบรรเทาอาการอากาศร้อน

ความเย็นเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับอาการร้อนวูบวาบและการนอนไม่หลับในช่วงที่อากาศร้อนได้เป็นอย่างดี เช่น 

  • หมอนเย็น หมอนที่ออกแบบมาเพื่อระบายความร้อนและรักษาความเย็นตลอดทั้งคืน
  • ผ้าปูที่นอนระบายความร้อน มีเทคโนโลยีพิเศษที่ช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย
  • พัดลมเย็นส่วนตัว พัดลมขนาดเล็กที่วางไว้ข้างเตียง ช่วยให้มีลมเย็นพัดผ่านตลอดคืน
  • เจลเย็นสำหรับหมอน แผ่นเจลที่สามารถวางบนหมอนเพื่อรักษาความเย็นในบริเวณศีรษะและคอ
  • สเปรย์น้ำเย็น แนะนำวัยทองเตรียมสเปรย์น้ำไว้ข้างเตียงเพื่อฉีดพ่นเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าอากาศร้อน
  • การแช่เท้าในน้ำเย็นก่อนนอน แช่เท้าในน้ำเย็นประมาณ 10 นาทีก่อนนอน สามารถช่วยลดอุณหภูมิร่างกายโดยรวมของวัยทองได้
  • ผ้าเย็นสำหรับต้นคอและข้อมือ วางผ้าชุบน้ำเย็นบริเวณจุดชีพจรที่ต้นคอและข้อมือเพื่อช่วยลดอุณหภูมิร่างกายในช่วงที่อากาศร้อน ทำให้นอนหลับได้ดี

8. การแพทย์ทางเลือก

  • การฝังเข็ม มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการฝังเข็มอาจช่วยลดอาการร้อนวูบวาบและปัญหาการนอนหลับในผู้หญิงวัยทองได้
  • การนวดบำบัด ช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและส่งเสริมการผ่อนคลายของร่างกาย
  • อโรมาเธอราพี การใช้น้ำมันหอมระเหย เช่น ลาเวนเดอร์ คาโมไมล์ หรือเบอร์กาม็อต อาจช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีของวัยทอง

และคุณผู้อ่านท่านไหนที่เป็นสายกิน สายจุ๊บต่างๆ เพื่อให้คุณได้รับประทานอาหารที่อร่อยและมีประโยชน์ และยังช่วยส่งเสริมการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น เราจะมาเจาะลึกมากขึ้นโดยมีประเภทของอาหารและเครื่องที่แนะนำ รวมถึงให้หลีกเลี่ยงมาฝากเพิ่มเติม…

อาหารที่ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับในวัยทอง

1. อาหารที่มีทริปโตเฟน

ทริปโตเฟนเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายใช้ในการสร้างเมลาโทนิน (Melatonin) และเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยควบคุมวงจรการนอนหลับและความรู้สึกผ่อนคลาย อาหารที่มีทริปโตเฟนสูงและเหมาะสำหรับวัยทอง ได้แก่

  • ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ซึ่งนอกจากจะมีทริปโตเฟนแล้ว ยังมีกรดไขมันโอเมก้า – 3 ที่ช่วยลดอาการอักเสบและปรับสมดุลฮอร์โมนในวัยทอง
  • เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น อกไก่ เนื้อวัวส่วนที่ไม่มีไขมัน ซึ่งให้โปรตีนคุณภาพสูงช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อในวัยทองด้วย
  • ถั่วต่างๆ ทั้งถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง และถั่วลิสง ซึ่งมีทั้งทริปโตเฟนและไฟโตเอสโตรเจนที่ช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้
  • ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมอุ่น โยเกิร์ต ชีส ซึ่งมีทั้งทริปโตเฟนและแคลเซียมที่ช่วยในกระบวนการนอนหลับ

2. อาหารที่มีแมกนีเซียม

แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่ช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและระบบประสาท การขาดแมกนีเซียมพบบ่อยในวัยทองและอาจส่งผลให้นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย และเกิดอาการเกร็งกล้ามเนื้อ อาหารที่มีแมกนีเซียมสูง ได้แก่

  • ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ที่ยังคงคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
  • ผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขม คะน้า ใบยอ ซึ่งนอกจากแมกนีเซียมยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ ที่จำเป็นต่อวัยทอง
  • เมล็ดพืชและถั่ว เช่น เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน อัลมอนด์ ซึ่งอุดมไปด้วยแมกนีเซียมและไขมันดี
  • กล้วย ซึ่งนอกจากแมกนีเซียมแล้วยังมีโพแทสเซียมที่ช่วยลดอาการตะคริวกล้ามเนื้อที่มักรบกวนการนอนในวัยทอง

3. อาหารที่มีเมลาโทนินธรรมชาติ

เมลาโทนินเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมวงจรการนอนหลับและตื่น ในวัยทองการผลิตเมลาโทนินจะลดลงตามธรรมชาติ การรับประทานอาหารที่มีเมลาโทนินจึงช่วยเสริมให้นอนหลับดีขึ้นได้ 

  • เชอร์รี่เปรี้ยว เป็นแหล่งของเมลาโทนินธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูง การดื่มน้ำเชอร์รี่เปรี้ยวดก่อนนอน จึงช่วยวัยทองให้หลับง่ายขึ้น แม้อากาศร้อน
  • กีวี มีทั้งเมลาโทนินและเซโรโทนิน อีกทั้งยังมีแอนตี้ออกซิแดนท์สูงช่วยลดอาการอักเสบในร่างกายของวัยทอง
  • ถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลือง มีทั้งเมลาโทนินและไฟโตเอสโตรเจนที่ช่วยบรรเทาอาการวัยทอง
  • ข้าวโอ๊ต มีเมลาโทนินและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ตลอดคืน

จากข้อมูลอาหารต่างๆ ที่เราได้แนะนำคุณผู้อ่าน เผอิญเราก็ได้พบกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมตัวหนึ่งเช่นเดียวกัน ซึ่งข้อดีของอาหารเสริมตัวนี้ คือ มีสารกัดจากธรรมชาติที่แนะนำเพื่อบรรเทาอาการนอนไม่หลับ แค่นั้นยังไม่ยังช่วยบรรเทาอาการวัยทองโดยรวมให้ดีขึ้นได้อีกด้วย และเรากำลังพูดถึง…

ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับคุณผู้หญิงวัยทองโดยเฉพาะ เมื่ออากาศร้อนมาถึง ปัญหาการนอนหลับในวัยทองก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) จึงได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของผู้ที่อยู่ในวัยทอง ด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ 6 ชนิดที่ได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวัยทอง รวมถึงปัญหาการนอนไม่หลับในช่วงอากาศร้อน ได้แก่

  • 1. สารสกัดจากถั่วเหลือง นำเข้าจากประเทศสเปนอุดมไปด้วยไอโซฟลาโวน สารที่มีโครงสร้างคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบและเหงื่อออกตอนกลางคืนที่เป็นสาเหตุสำคัญของการนอนไม่หลับในวัยทอง โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนที่อุณหภูมิสูงอยู่แล้ว
  • 2. สารสกัดจากตังกุย ช่วยบรรเทาอาการวัยทองหลายประการ ไม่เพียงแต่ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ แต่ยังช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดและความวิตกกังวลที่มักพบในวัยทอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของปัญหาการนอนไม่หลับ
  • 3. สารสกัดจากแปะก๊วย มีคุณสมบัติในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองและส่วนต่างๆ ของร่างกาย ช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางสมอง ความจำที่อาจเสื่อมถอยลงในวัยทอง และลดวิตกกังวลซึ่งมีผลต่ออาการนอนไม่หลับ
  • 4. สารสกัดจากงาดำ อุดมไปด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม และธาตุสังกะสี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ควบคุมวงจรการนอนหลับและตื่น จึงช่วยปรับสมดุลวงจรการนอน โดยเฉพาะในวัยทองที่การหลั่งฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับอาจลดลง
  • 5. ออร์แกนิค แครนเบอร์รี่ แหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีแนวโน้มอ่อนแอลงในวัยทอง
  • 6. อินูลิน พรีไบโอติก เป็นใยอาหารที่ไม่ถูกย่อยในระบบทางเดินอาหารส่วนต้น แต่จะถูกหมักโดยแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ใหญ่ การเสริมพรีไบโอติกช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการหลั่งของสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และการนอนหลับ เช่น เซโรโทนินและเมลาโทนิน สุขภาพลำไส้ที่ดีจึงช่วยปรับสมดุลอารมณ์และส่งเสริมการนอนหลับที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะในวัยทองที่มักพบปัญหาการนอนไม่หลับอันเนื่องมาจากความเครียดและความวิตกกังวล

*ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

แนะนำให้คุณผู้อ่านรับประทานวันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้าหรืออาหารเย็น พร้อมน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิปกติ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ยิ่งรับประทานอย่างต่อเนื่องก็เปรียบเสมือนเป็นกุญแจสำคัญในการเห็นผลลัพธ์ที่ดี 

และมั่นใจได้อย่าง 100% เพราะ ดีเน่ ฟลาโวพลัส (DNAe Flavoplus) ได้ผ่านการรับรองและขึ้นทะเบียนกับ อย. ของประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับมาตรฐานการผลิตระดับฮาลาลอีกด้วย

เครื่องดื่มที่ช่วยให้นอนหลับดีขึ้นสำหรับวัยทอง

1. ชาสมุนไพร

ชาสมุนไพรหลายชนิด มีสรรพคุณช่วยให้วัยทองนั้นได้ผ่อนคลายและส่งเสริมการนอนหลับโดยไม่มีคาเฟอีนที่รบกวนการนอน 

  • ชาคาโมมายล์ มีสารอพิเจนินที่ช่วยลดความวิตกกังวลและส่งเสริมการนอนหลับ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับวัยทองที่มีอาการนอนไม่หลับเนื่องจากความเครียด
  • ชาวาเลเรียน มีฤทธิ์ช่วยให้หลับลึกและนานขึ้น แนะนำให้ดื่มก่อนนอนประมาณ 30 – 45 นาที
  • ชาใบเตย มีกลิ่นหอมผ่อนคลาย ช่วยบรรเทาความเครียดและทำให้วัยทองจิตใจสงบ เป็นสมุนไพรไทยที่หาได้ง่าย

2. เครื่องดื่มจากนม

  • นมอุ่นผสมน้ำผึ้ง เป็นเมนูยอดฮิตของเครื่องดื่มก่อนนอนที่มีประสิทธิภาพของวัยทอง โดยทริปโตเฟนในนม มีส่วนช่วยในการสร้างเมลาโทนิน ขณะที่น้ำผึ้งช่วยให้ทริปโตเฟนเข้าสู่สมองได้ง่ายขึ้น
  • นมอัลมอนด์อุ่น เป็นทางเลือกสำหรับวัยทองหรือผู้ที่แพ้นมวัว มีแมกนีเซียมสูงและไขมันดีที่ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น
  • นมข้าวโอ๊ตผสมอบเชย อบเชยช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและมีสรรพคุณอุ่นร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการหนาวสั่นที่อาจเกิดหลังอาการร้อนวูบวาบในวัยทอง

3. น้ำผลไม้ธรรมชาติ

  • น้ำเชอร์รี่เปรี้ยว มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยเพิ่มระดับเมลาโทนินในร่างกายและปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ
  • น้ำมะขามป้อม อุดมด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการนอนไม่หลับในวัยทอง
  • น้ำกีวี ดื่มก่อนนอนประมาณ 1 ชั่วโมง ช่วยให้วัยทองนอนหลับเร็วขึ้นและมีคุณภาพการนอนดีขึ้น

อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนนอน

1. อาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

เพราะคาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทและรบกวนการนอนหลับอย่างมาก ในวัยทองร่างกายจะใช้เวลานานขึ้นในการกำจัดคาเฟอีน จึงแนะนำให้ควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงก่อนนอน ได้แก่

  • กาแฟ ชาดำ ชาเขียว
  • เครื่องดื่มชูกำลัง
  • น้ำอัดลมบางชนิด
  • ช็อกโกแลตเข้มข้น

2. อาหารรสเผ็ดและมัน

อาหารรสเผ็ดและมันเกินไปอาจกระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อนและรบกวนการนอนหลับ โดยเฉพาะในวัยทองที่ระบบย่อยอาหารอาจทำงานได้ไม่ดีเท่าเดิม

  • อาหารทอด 
  • อาหารมัน
  • อาหารรสเผ็ดจัด
  • อาหารหมักดอง
  • อาหารรสจัด

3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แม้ว่าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อาจช่วยให้หลับง่ายขึ้นในตอนแรก แต่จะรบกวนคุณภาพการนอนหลับในช่วงหลัง โดยเฉพาะการนอนหลับช่วง REM ซึ่งสำคัญต่อการเรียนรู้และความจำ ในวัยทองร่างกายเผาผลาญแอลกอฮอล์ได้ช้าลง ทำให้ผลกระทบต่อการนอนรุนแรงขึ้น

  • เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด ควรหลีกเลี่ยงอย่างน้อย 3 – 4 ชั่วโมงก่อนนอน
  • แอลกอฮอล์ยังทำให้อาการร้อนวูบวาบและเหงื่อออกตอนกลางคืนรุนแรงขึ้นในวัยทอง
  • หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งอาจทำให้นอนหลับยากขึ้น

4. อาหารที่มีน้ำตาลสูง

น้ำตาลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้ตื่นกลางดึกเมื่อระดับน้ำตาลลดลงต่ำเกินไปนั่นเอง

  • ขนมหวาน เค้ก คุกกี้ ช็อกโกแลต
  • น้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
  • อาหารแปรรูปที่มีน้ำตาลแอบแฝง
  • ผลไม้ที่มีรสหวานจัดเกินไป หากรับประทานใกล้เวลานอน

สรุป

ปัญหาการนอนไม่หลับในวัยทองถือเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง และไม่ควรที่ต้องทนอยู่โดยไม่ได้รับการช่วยเหลือ หากการปรับปรุงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนอนหลับที่ตรงเวลา การปรับแก้สภาพอากาศที่ร้อนขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงเทคนิคผ่อนคลายที่เราได้รวบรวมนำมาฝากแล้วยังไม่มีอาการที่ดีขึ้น ตลอดจนอาหารเสริมที่มีคุณภาพ

การปรึกษาแพทย์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สำคัญ การวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสมจากแพทย์จะช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาและได้รับการรักษาที่ตรงจุด ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถกลับมามีคุณภาพการนอนที่ดีและมีชีวิตที่มีคุณภาพในช่วงวัยทองได้อย่างเต็มที่นั่นเอง