ตับกับสุขภาพวัยทอง

เชื่อว่าในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่ผ่านมาลากยาวตั้งแต่เทศกาลคริสมาสต์มาจนถึงเทศกาลปีใหม่ เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายๆ ท่าน ทั้งผู้ที่เป็นวัยทอง และผู้ที่กำลังจะเข้าสู่วัยทอง ต้องเฉลิมฉลองกันมาอย่างหนักหน่วงเป็นแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากผ่านเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ 2025 ที่หลายคนอาจจะรับประทานอาหารและเครื่องดื่มมากเกินปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้ตับต้องทำงานหนักกว่าเดิม การดูแลตับจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

“ตับ” เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ทำหน้าที่หลายประการ ทั้งการกำจัดสารพิษ การผลิตน้ำดี การสร้างโปรตีน ตลอดจนการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และยิ่งเมื่อเข้าสู่วัยทอง การทำงานของตับอาจเสื่อมถอยลงตามช่วงอายุวัย การดูแลตับด้วยอาหารที่เหมาะสมจึงเป็นอีกวิธีที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูและบำรุงตับของคุณผู้อ่านให้แข็งแรงนั้นเอง

“ตับกับสุขภาพวัยทอง” ความเชื่อมโยงที่ไม่ควรมองข้าม

อย่างที่หลายท่านทราบกันดีว่าเมื่อร่างกายของเราได้ก้าวเข้าสู่วัยทอง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ และเป็นที่มาของคำถามจากหลายท่านว่า แล้วอาการวัยทองเป็นอย่างไร? ส่วนมากที่พบเจอได้ง่ายเลย คือ อาการร้อนวูบวาบ(01/11) อาการนอนไม่หลับ เหงื่อออกเยอะช่วงเวลากลางคืน อารมณ์แปรปรวนเป็นต้น 

ซึ่งนอกจากอาการวัยทองที่อาจเกิดขึ้นได้แล้ว ร่างกายก็ยังต้องดูแลไม่ให้ขาด โดยเฉพาะตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมสมดุลฮอร์โมนในร่างกายของเรา

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในวัยทองที่ส่งผลต่อตับ

ในวัยทองระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรนจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของตับในหลายด้าน

  1. การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: เมื่อฮอร์โมนเพศเปลี่ยนแปลง จะส่งผลให้ความไวต่ออินซูลินลดลง ทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้นในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  2. การเผาผลาญไขมัน: ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อการทำงานของเอนไซม์ในตับที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญไขมัน ทำให้เกิดการสะสมไขมันในตับได้ง่ายขึ้น
  3. การสร้างโปรตีน: ตับอาจสร้างโปรตีนได้ลดลง ส่งผลต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและการสร้างฮอร์โมนต่างๆ

สัญญาณเตือนตับเสื่อมในวัยทอง

จากที่เกริ่นไปข้างต้นแล้วว่า “ตับ” เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำจัดสารพิษและควบคุมการทำงานของร่างกาย เราเลยจะพาคุณผู้อ่านไปรู้จักและสังเกตสัญญาณเตือนต่างๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถดูแลสุขภาพตับได้ทันท่วงที เมื่อมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น!!

1. อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง

เมื่อตับเริ่มมีอาการเสื่อม…ก็จะส่งผลต่อการผลิตพลังงานของร่างกาย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่จับไม่สามารถเผาผลาญอาหารไปเป็นพลังงานได้เหมือนปกติ ทำให้เกิดการสะสมสารพิษในร่างกายที่ตับไม่สามารถกำจัดได้หมด

ลักษณะอาการที่พบ

  • รู้สึกเหนื่อยล้า แม้เพิ่งตื่นนอน
  • ไม่มีแรง แม้ทำกิจกรรมเบาๆ
  • ต้องการนอนพักบ่อยกว่าปกติ
  • มีอาการง่วงนอนระหว่างวัน

2. อาการท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย

ตับมีบทบาทสำคัญในการย่อยอาหารและการผลิตน้ำดี เมื่อตับเริ่มมีอาการเสื่อมการผลิตน้ำดีก็จะลดลง ทำให้ย่อยไขมันในร่างกายได้ไม่ดี ตลอดจนการดูดซึมสารอาการที่ผิดปกติและการทำงานของระบบย่อยอาหารที่ไม่สมดุล 

อาการที่สังเกตได้

  • รู้สึกแน่นท้อง หลังรับประทานอาหาร
  • ท้องอืดบ่อย โดยเฉพาะหลังทานอาหารมัน
  • มีแก๊สในกระเพาะอาหารมากกว่าปกติ
  • รู้สึกไม่สบายท้อง แม้ทานอาหารในปริมาณน้อย

3. อาการผิวหนังเหลือง ตาเหลือง

อาการตัวเหลือง ตาเหลือง เป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญของปัญหาตับ เพราะแสดงให้เห็นการสะสมของบิลิรูบินในร่างกาย ตับไม่สามารถกำจัดสารสีเหลืองจากการแตกตัวของเม็ดเลือดแดงในร่างกายได้ดี รวมไปจนถึงการอุดตันของท่อน้ำดี ทำให้ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม

วิธีสังเกตอาการ

  • ตรวจดูตาขาวในที่มีแสงสว่างเพียงพอ
  • สังเกตสีผิวโดยเฉพาะบริเวณฝ่ามือและใบหน้า
  • เปรียบเทียบสีผิวกับคนรอบข้าง

4. อาการคันตามตัวโดยไม่มีสาเหตุ

หนึ่งในอาการเตือนโรคตับ คือ อาการคันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพราะมีน้ำดีไปสะสมอยู่บริเวณผิวหนังส่วนนั้น เลยทำให้เกิดอาการคัน ซึ่งอาการคันที่เกิดจากปัญหาตับมีลักษณะเฉพาะลองสังเกตุได้จาก

ลักษณะการคัน

  • คันโดยไม่มีผื่นหรือรอยแดง
  • มักเป็นมากขึ้นในเวลากลางคืน
  • คันทั่วตัว ไม่เฉพาะจุด
  • อาการคันไม่ดีขึ้นแม้ใช้ยาทาแก้คันทั่วไป

5. น้ำหนักขึ้นง่ายผิดปกติ

การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจเป็นสัญญาณของปัญหาตับก็เป็นได้ เนื่องจากร่างกายมีการทำงานที่เผาผลาญที่ผิดปกติจนเกิดการสะสมของเหลวในร่างกาย ตลอดจนการทำงานของฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่วัยทอง 

ลักษณะการเพิ่มของน้ำหนัก

  • น้ำหนักขึ้นเร็วผิดปกติ
  • บวมตามแขนขาและท้อง
  • รู้สึกหนักตัวแม้ไม่ได้ทานอาหารมากขึ้น

6. อาการปวดท้องบริเวณชายโครงขวา

อาการปวดบริเวณชายโครงขวาเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาตับโดยตรง เนื่องจากเป็นที่อยู่ของตับ ซึ่งอาจเกิดจากการอักเสบของเนื้อตับ หรือเกิดจากเนื้องอกภายในตับ

ลักษณะความเจ็บปวด

  • ปวดตื้อๆ บริเวณชายโครงขวา
  • อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นหลังทานอาหารมัน
  • บางครั้งอาจร้าวไปที่หลัง
  • ความเจ็บปวดอาจเพิ่มขึ้นเมื่อกดบริเวณนั้น

การสังเกตและใส่ใจสัญญาณเตือนเหล่านี้ จะช่วยให้คุณผู้อ่านที่เป็นวัยทองสามารถดูแลสุขภาพตับได้อย่างทันท่วงที การพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในวัยทองที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงมาก

8 เมนูอาหารไทยพื้นบ้าน เสริมบำรุงตับให้วัยทอง

หลังจากที่คุณผู้อ่านทุกท่านได้ทราบถึงความสำคัญของตับในวัยทอง สัญญาณเตือนจากร่างกายในการสังเกตอาการที่อาจเป็นผลกระทบมาจากตับแล้ว ครั้งนี้เราไม่พลาด หาเมนูอาหารดีของไทยเรา ที่นอกจากจะอร่อย ถูกปาก สามารถทำได้ง่ายๆ ยังเป็นเมนูสุขภาพที่ดีต่อวัยทองอีกด้วย(03/11)

โดยเฉพาะวัตถุดิบจาก “สมุนไพรไทย” ที่ไม่เพียงมีประโยชน์และสรรพคุณมากมายที่กินแล้วดีต่ออาการวัยทองและผู้ที่เป็นวัยทองแล้ว ยังช่วยดูแล บำรุงสุขภาพตับให้ดีได้อีกด้วย มีเมนูอะไรบ้าง มาลองดูกัน

1. แกงส้มมะระขี้นก

มะระขี้นก เป็นผักพื้นบ้านที่มีสรรพคุณในการบำรุงตับโดยตรง มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และช่วยล้างพิษในตับได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

สรรพคุณจากอาหาร

  • ช่วยขับสารพิษ
  • ลดการอักเสบของตับ
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับ

2. ต้มยำปลาคัง

เรียกว่าเป็นเมนูยอดฮิตสำหรับร้านอาหารริมน้ำ นอกจากจะได้บรรยากาศที่ดีในการนั่งทานอาหารยามเย็มแล้ว เมนูนี้วัตถุดิบคุณภาพอย่าง “ปลาคัง” ยังเป็นปลาที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ เหมาะสำหรับคุณผู้อ่านที่ต้องการบำรุงตับมากๆ

สรรพคุณจากอาหาร

  • โปรตีนคุณภาพสูง ช่วยซ่อมแซมเซลล์ตับ
  • กรดไขมันโอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบ
  • วิตามินบีรวม ช่วยเสริมการทำงานของตับ

3. ยำใบบัวบก

ใบบัวบก เป็นอีกหนึ่งพืชสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณเยอะมาก และมีส่วนช่วยในการบำรุงตับโดยตรงอีกด้วย นอกจากจะมาทำเป็นอาหารแล้ว ยังสามารถทำเป็นเครื่องดื่มสุขภาพรับประทานระหว่างวันในอากาศร้อนๆ ก็สดชื่นไม่แพ้กัน

สรรพคุณจากอาหาร

  • สารต้านอนุมูลอิสระสูง
  • ช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับ
  • เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปสู่ตับ

4. น้ำพริกมะระ

นอกจากใบบัวบกแล้ว “มะระ” ก็เป็นอีกหนึ่งผักที่มีสรรพคุณโดดเด่นในการบำรุงตับไม่แพ้กัน ตลอดจนมีประโยชน์ในเรื่องของการขับถ่าย มะเร็ง การย่อยอาหาร รักษาอาการหวัด ซึ่งการนำมาทำเป็นน้ำพริกจะช่วยให้รับประทานได้ง่ายขึ้น

สรรพคุณจากอาหาร

  • สารโมมอร์ดิซินช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • เพิ่มการขับน้ำดี
  • ลดการอักเสบของตับ

5. แกงเลียงผักรวม

แกงเลียง เป็นอาหารไทยเมนูพื้นบ้านง่ายๆ ที่อุดมไปด้วยผักหลากหลายชนิด ทำให้ได้รับประโยชน์จากหลากหลายทาง หนึ่งในนั้น คือ ช่วยบำรุงตับได้เป็นอย่างดี

สรรพคุณจากอาหาร

  • วิตามินและแร่ธาตุหลากหลาย
  • ใยอาหารสูง ช่วยระบบขับถ่าย
  • สารต้านอนุมูลอิสระจากผักหลายชนิด

6. ผัดผักบุ้งไฟแดง

อีกหนึ่งเมนูหาได้ง่ายตามท้องตลาด ข้าวต้ม หรือจะเป็นทางฝั่งบุฟเฟ่ก็มีให้เลือก จากการทานผักบุ้ง เป็นผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงตับได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงสายตาได้ดีอีกด้วย

สรรพคุณจากอาหาร

  • วิตามินเอและซีสูง
  • ใยอาหารช่วยระบบขับถ่าย
  • สารต้านอนุมูลอิสระสูง

7. แกงจืดเต้าหู้หมูสับ

อาหารเบาๆ ย่อยง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักตับ วันสบายๆ อยู่ที่บ้านทานพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ก็สามารถกลายเป็นเมนูประจำบ้านได้ง่ายๆ ทำง่าย ทำอร่อย กินได้ทุกวัน

สรรพคุณจากอาหาร

  • โปรตีนจากเต้าหู้ย่อยง่าย
  • ไอโซฟลาโวนช่วยบำรุงตับ
  • น้ำซุปช่วยเพิ่มการขับถ่าย

8. ยำตะไคร้กุ้งสด

อีกหนึ่งเมนูไทยๆ อาหารที่มีสมุนไพรหลากหลาย ช่วยบำรุงตับและระบบย่อยอาหาร ยำตะไคร้ถือเป็นสลัดไทยรสอร่อยมากด้วยคุณประโยชน์ ทั้งวิตามินซีจากมะนาวรสเปรี้ยวและตะไคร้ต้นอ่อน ที่มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต และคลายความเครียดได้ดีอีกด้วย

สรรพคุณจากอาหาร

  • น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ช่วยขับลม
  • โปรตีนคุณภาพดีจากกุ้ง
  • วิตามินซีจากมะนาว

และเพื่อให้คุณผู้อ่านได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ครบถ้วนทุกตัว เพื่อให้ตับของคุณผู้อ่านแข็งแรงอยู่เสมอ ทางเราก็ไม่พลาดหยิบยกอาหารเสริมดีๆ ที่มีคุณภาพ แน่นอนว่าจะต้องผ่านการรับรองและได้รับการลงทะเบียนที่ถูกต้องจาก อย. ของไทยอีกด้วย และตัวนั้นก็คือ 

“ดีเน่ ฟวาโวพลัส” DNAe Flavoplus และ “ดีเน่ แอนโดรพลัส DNAe Andro plus” อาหารเสริมที่ผลิตและจัดทำขึ้นมาเพื่อคนวัยทองโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าอาหารเสริมที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มอาการต่างๆ ที่คุณผู้อ่านอาจพบได้เมื่อเข้าสู่วัยทอง ซึ่งจะบรรเทาอาการวัยทองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อาการร้อนวูบวาบ อาการนอนไม่หลับ อาการอารมณ์แปรปรวนง่าย และอื่นๆ ที่สามารถพบเจอได้ผ่านผลิตภัณฑ์สูตรคุณหมอที่คัดสรรสารสกัดจากธรรมชาติรวมไว้ให้ภายใน 1 แคปซูล คนอายุ 35 – 40 ปี ก็ทานได้เพื่อบำรุงตั้งแต่เนิ่นๆ นั้นเอง

ดีเน่ แอนโดรพลัส DNAe Andro plus” อาหารเสริมสำหรับคุณผู้ชาย เพียงทานวันละ 1 แคปซูล หลังอาหารมื้อใดก็ได้ที่สะดวก คัดสรรมาแล้วสำหรับคุณผู้ชายที่ช่วยดูแลตับ

  • สารสกัดจากโสมเกาหลี ที่ช่วยปกป้องเซลล์ตับและช่วยฟื้นฟูการทำงานของตับ รวมถึงลดอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง เพิ่มภูมิคุ้มกันอีกด้วย
  • แอล-อาร์จีนีน เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายใช้ในการผลิตไนตริกออกไซด์ ซึ่งช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงตับได้ดีขึ้น ส่งผลให้ตับทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ซิงค์ แร่ธาตุสำคัญที่ช่วยในกระบวนการดีท็อกซ์ของตับ และยังมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อตับที่เสียหาย

และคุณประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่ดีต่อสุขภาพวัยทองในผู้ชาย(04/12) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย เรื่องระบบหัวใจและหลอดเลือด ไขข้อและกระดูก ต้านอักเสบ ลดอาการปวด ลองทานสักกระปุกนะคุณผู้อ่านจะเห็นผลลัพธ์เลยละ และสำหรับคุณผู้หญิงกับ

“ดีเน่ ฟวาโวพลัส” DNAe Flavoplus ผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับคุณผู้หญิง กับสารสกัดเด่นอย่าง “ถั่วเหลือง” ที่นำเข้าจากสเปน มีส่วนช่วยในการลดและแก้อาการร้อนวูบวาบในวัยทองได้ดี รวมไปถึงไอโซฟลาโวนในถั่วเหลืองช่วยปกป้องเซลล์ตับจากความเสียหาย เพียงทานครั้งละ 1 แคปซูลหลังมื้ออาหารใดก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีสารสกัดตัวอื่นๆ ที่คุณหมอหลายๆ ท่านแนะนำให้ทานในมื้ออาหารสำหรับวัยทองอีก เช่น 

  • งาดำ มีกรดไขมันที่จำเป็นช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ตับ
  • ตังกุย บำรุงเลือดให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น ให้เลือดไปสู่ตับได้ดี
  • แปะก๋วย เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปสู่ตับ ช่วยให้ตับได้รับออกซิเจนและสารอาหารดีขึ้น
  • อินูลิน พรีไบโอติก ช่วยปรับสมดุลทางเดินอาหารและลำไส้ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • สารสกัด Organic แครนเบอร์รี่ นอกจากจะช่วยให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส เพิ่มคอลลาเจน ทำให้ผิวไม่เหี่ยวย่นแก่ก่อนวัยแล้ว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ตับ

มั่นใจได้กับสารสกัดเข้มข้นจากธรรมชาติ คัดเกรดพรีเมียม ที่มีเลขทะเบียน อย. มีใบวิเคราะห์การันตีสารสกัดนำเข้า มีค่าเปอร์เซนต์สารสำคัญ และไม่ตัดแต่งพันธุกรรม จากการพัฒนาสูตรและคิดค้นโดยทีมเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญจากโรงงานมาตรฐานสากล 

เมื่อตับแข็งแรง!! ดีต่อสุขภาพวัยทองอย่างไรบ้าง?

เมื่อตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะส่งผลดีต่อสุขภาพในหลายด้าน

  1. ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น
    • ตับจะสามารถเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงานได้ดีขึ้น
    • การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    • เผาผลาญสารอาหารได้สมดุล ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างเต็มที่
  1. ควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้น
    • ตับที่แข็งแรงจะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ดี
    • ระบบเมตาบอลิซึมทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    • ลดการสะสมไขมันในช่องท้อง(15/11) ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยทอง
  1. ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
    • ตับช่วยกำจัดสารพิษที่ทำร้ายผิวหนัง
    • สร้างคอลลาเจนและโปรตีนที่จำเป็นต่อสุขภาพผิว
    • ช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนที่ส่งผลต่อสภาพผิว
  1. ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง
    • ตับผลิตโปรตีนที่จำเป็นสำหรับระบบภูมิคุ้มกัน
    • ช่วยกำจัดเชื้อโรคและสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย
    • สร้างสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์
  1. การนอนหลับมีคุณภาพดีขึ้น
    • ตับช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ
    • ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุลตลอดคืน
    • ลดอาการอ่อนเพลียและง่วงนอนระหว่างวัน

สรุป

การดูแลสุขภาพตับในวัยทองผ่านการรับประทานอาหารไทยที่มีประโยชน์ เป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลดี โดยเฉพาะในช่วงหลังเทศกาลปีใหม่ 2025 ที่ร่างกายต้องการการฟื้นฟู การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม ควบคู่กับการปฏิบัติตามคำแนะนำในการรับประทานอาหาร จะช่วยให้ตับแข็งแรง ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม

อย่างไรก็ตาม… การดูแลสุขภาพตับไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การรับประทานอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนให้เพียงพอ การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์(11/01/68) และการจัดการความเครียด ทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน อ่านเสร็จแล้ว หวังว่าคุณผู้อ่านจะลองนำไปใช้บ้าง แล้วอย่าลืมแอบมาบอกกันบ้างน้า…