7 เคล็ดลับ ดูแลสุขภาพข้อเข่าให้อยู่คู่กับคุณนานๆ ในวัยทอง
วัยทอง เป็นช่วงที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง รวมถึงข้อเข่าที่อาจเสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้น เนื่องจากระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ทำให้กระดูก และข้อต่ออ่อนแอลง แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเรามีวิธีดูแลสุขภาพข้อเข่าให้แข็งแรงห่างไกล โรคข้อเข่าเสื่อม ได้ดังนี้
1. ควบคุมน้ำหนัก
- น้ำหนักตัวที่มากเกินไป จะส่งผลให้ข้อเข่าต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการเสียดสี และสึกหรอมากขึ้น เสี่ยงเป็น โรคข้อเข่าเสื่อม
2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- การออกกำลังกาย ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า ทำให้ข้อเข่าแข็งแรงขึ้น และสามารถรับน้ำหนักได้ดีขึ้น
3. หลีกเลี่ยงกิจกรรม ที่ส่งผลกระทบต่อข้อเข่า
- กิจกรรมที่ต้องใช้แรงกระแทก หรืองอเข่าบ่อยๆ เช่น การวิ่ง การกระโดด อาจทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น
4. เลือกใส่รองเท้าที่นุ่มสบาย
- รองเท้าที่นุ่มสบาย จะช่วยลดแรงกระแทกที่กระทำต่อข้อเข่า
5. บริหารข้อเข่าเป็นประจำ
- การบริหารข้อเข่า ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า
6. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- อาหารที่มีแคลเซียม วิตามินดี และโปรตีนเพียงพอ ช่วยเสริมสร้างกระดูก และข้อต่อให้แข็งแรง
7. พักผ่อนให้เพียงพอ
- การพักผ่อนที่เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
วัยทอง กับ โรคข้อเข่าเสื่อม รู้ทัน 10 สัญญาณ และวิธีป้องกันไม่ให้ลุกลาม!
10 สัญญาณ บ่งบอกว่าคุณอาจมีปัญหา โรคข้อเข่าเสื่อม ในช่วงวัยทอง
- ปวดข้อเข่า : อาการปวดอาจเกิดขึ้นขณะเคลื่อนไหว หรือแม้กระทั่งขณะพักผ่อน
- ข้อเข่าบวม : ข้อเข่าอาจบวมแดง หรือรู้สึกอุ่นผิดปกติ
- ข้อเข่าแข็ง : ข้อเข่าเคลื่อนไหวไม่คล่องตัว รู้สึกฝืดเมื่อเริ่มขยับ
- มีเสียงดังในข้อเข่า : อาจได้ยินเสียงกรอบแกรบ เมื่อขยับข้อเข่า
- เดินกะเผลก : การเดินผิดปกติเนื่องจากปวดข้อเข่า
- รู้สึกเจ็บเมื่อกดบริเวณข้อเข่า : โดยเฉพาะบริเวณขอบข้อเข่า
- ปวดเมื่อขึ้นลงบันได : หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกดที่ข้อเข่า
- รู้สึกอ่อนแรงที่ขา : กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง ทำให้เดินไม่มั่นคง
- ปวดเมื่อนั่งยองๆ หรือคุกเข่า
- ปวดเข่าร้าวลงไปที่น่อง
วิธีป้องกัน และดูแลข้อเข่า ในช่วงวัยทอง ห่างไกล โรคข้อเข่าเสื่อม
- ควบคุมน้ำหนัก : น้ำหนักตัวที่มากเกินไปเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ออกกำลังกาย : เลือกออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือโยคะ ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและความยืดหยุ่นของข้อเข่า
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระแทกข้อเข่า : เช่น วิ่ง กระโดด หรือยกของหนัก
- ใช้ไม้เท้า : หากมีอาการปวดข้อเข่ามาก การใช้ไม้เท้าจะช่วยลดแรงกระแทกที่ข้อเข่า
- พักผ่อนให้เพียงพอ : การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : อาหารที่มีแคลเซียม วิตามินดี และโปรตีน ช่วยเสริมสร้างกระดูก และข้อต่อให้แข็งแรง
- ปรึกษาแพทย์ : หากมีอาการปวดข้อเข่ารบกวน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
- บริหารข้อเข่า : การบริหารข้อเข่าเป็นประจำจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และความยืดหยุ่นของข้อเข่า
- ใช้ความร้อนหรือความเย็นประคบ : การประคบด้วยความร้อน หรือความเย็นสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้
- หลีกเลี่ยงการนั่งยองๆ หรือคุกเข่า : ท่าเหล่านี้จะทำให้ข้อเข่าได้รับแรงกดทับมากขึ้น
โรคข้อเข่าเสื่อม หายขาดได้หรือไม่? วิธีดูแลรักษาที่ช่วยบรรเทาอาการอย่างได้ผล
ทำไม โรคข้อเข่าเสื่อม ถึงรักษาไม่หายขาด?
- กระดูกอ่อนเสื่อม : กระดูกอ่อนที่บุข้อเข่า เมื่อเสื่อมสภาพแล้ว จะไม่สามารถงอกใหม่ได้เอง
- เกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติ : การเสื่อมของข้อเข่าเป็นกระบวนการตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
วิธีดูแลรักษา โรคข้อเข่าเสื่อม
แม้ว่าจะรักษา โรคข้อเข่าเสื่อม ไม่หายขาด แต่เราก็สามารถดูแลตัวเอง เพื่อบรรเทาอาการ และชะลอการเสื่อมของข้อเข่าได้ ดังนี้
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- ควบคุมน้ำหนัก
- ออกกำลังกาย
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ข้อเข่าเจ็บ เช่น การวิ่ง การกระโดด หรือการยืนนานๆ
- รับประทานอาหาร
- อาหารที่มีแคลเซียม และวิตามินดี ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
- อาหารที่มีโปรตีน ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
- ลดอาหารที่มีไขมันสูง เพราะไขมันสูงอาจทำให้เกิดการอักเสบในข้อเข่าได้
- ทานยา
- ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ไอบูโปรเฟน ช่วยบรรเทาอาการปวด
- ยาฉีด เช่น ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ ช่วยลดการอักเสบ
- กายภาพบำบัด : ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า และเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อเข่า
- การผ่าตัด : ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก และการรักษาแบบอื่นไม่ตอบสนอง แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัด เช่น การเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
บำรุงข้อเข่าอย่างไรดี? อาหารที่ควรทาน และควรเลี่ยงสำหรับผู้ป่วย โรคข้อเข่าเสื่อม
แนะนำ อาหารที่ควรทาน เพื่อบำรุงข้อเข่า ห่างไกล โรคข้อเข่าเสื่อม
- อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 : ช่วยลดการอักเสบในข้อเข่า เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน
- อาหารที่มีวิตามินซี : ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกอ่อน เช่น ส้ม ฝรั่ง กีวี
- อาหารที่มีวิตามินดี : ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพกระดูก เช่น นม ไข่ ปลา
- อาหารที่มีแคลเซียม : ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูก เช่น นม ผลิตภัณฑ์จากนม ถั่วเหลือง ผักใบเขียว
- อาหารที่มีโปรตีน : ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของกล้ามเนื้อ และกระดูกอ่อน เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา ถั่วต่างๆ
- อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ : ช่วยลดการอักเสบในข้อเข่า เช่น ผักใบเขียว ผลไม้สีสด
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หรือลดปริมาณ ห่างไกล โรคข้อเข่าเสื่อม
- อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง : เช่น ไขมันจากเนื้อสัตว์ อาหารทอด เนย เพราะอาจทำให้การอักเสบในข้อเข่ารุนแรงขึ้น
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง : เพราะน้ำตาลอาจส่งผลต่อการอักเสบในร่างกาย
- อาหารแปรรูป : อาหารแปรรูปมักมีโซเดียมสูง ซึ่งอาจทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ทำให้ข้อเข่าบวม
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ : แอลกอฮอล์อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารสำคัญ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ
ตัวอย่างเมนูอาหาร สำหรับผู้ป่วย โรคข้อเข่าเสื่อม
- อาหารเช้า : โจ๊กข้าวกล้องใส่ไข่ต้ม และผักใบเขียว
- อาหารกลางวัน : ปลาแซลมอนอบ ข้าวกล้อง ผัดผักรวมมิตร
- อาหารเย็น : สลัดผัก น้ำสลัดใสๆ เนื้อไก่ย่าง
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการดูแลข่อเข่า
- ปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ : เพื่อวางแผนอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การดื่มน้ำช่วยในการขับของเสียออกจากร่างกาย
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : การออกกำลังกายที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า และเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อเข่า
ป้องกัน โรคข้อเข่าเสื่อม ในวัยทอง! บำรุงกระดูกด้วย DNAe Flavoplus อาหารเสริมที่คุณต้องลอง
สารสกัดสำคัญใน DNAe Flavoplus และประโยชน์ต่อสุขภาพกระดูกวัยทอง
- Organic แครนเบอร์รี่ : ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิด โรคข้อเข่าเสื่อม
- Prebiotic : ช่วยบำรุงจุลินทรีย์ในลำไส้ที่ดี ซึ่งมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อสุขภาพกระดูก
- ถั่วเหลืองนำเข้าจากประเทศสเปน : อุดมไปด้วยโปรตีนและไอโซฟลาโวน ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยลดการสูญเสียมวลกระดูก ในผู้หญิงวัยทอง
- ตังกุย : มีสรรพคุณบำรุงเลือด บำรุงประจำเดือน และช่วยบรรเทาอาการวัยทอง
- แปะก๊วย : ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงกระดูก และข้อต่อ
- งาดำ : อุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับสุขภาพกระดูก
4 ข้อดี (DNAe Flavoplus) , (DNAe Andro plus) เหมาะสำหรับวัยทองทั้งผู้หญิงวัย และผู้ชาย
- ลดความเสี่ยง โรคข้อเข่าเสื่อม : สารสกัดต่างๆ ในผลิตภัณฑ์ช่วยลดการอักเสบ บำรุงกระดูก และเพิ่มความแข็งแรงให้กับข้อต่อ
- บรรเทาอาการวัยทอง : ตังกุยช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดจากการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน
- เพิ่มความแข็งแรงให้กระดูก : แคลเซียม และวิตามินต่างๆ ในผลิตภัณฑ์ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูก
- ปรับปรุงสุขภาพโดยรวม : สารต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์ ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย